สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์แจ้ง รสช. สั่งระงับการเสวนาเรื่องมาตรา 112

ในวันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2558 นี้ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจที่ถูกยกเลิกงานเสวนาเรื่องกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือ มาตรา 112 ตามประมวลกฎหมายอาญา ที่ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีคำสั่งด้วยวาจาผ่านทางตำรวจให้ยกเลิก โดยทางสมาคมฯ แย้งว่าการเสวนาดังกล่าว จะเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์

โดยทางสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (Foreign Correspondents’ Club of Thailand – FCCT) ได้ออกแถลงการณ์ว่า “ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้สมาคมฯ ทราบทางจดหมายเพื่อขอความร่วมมือในยกเลิกการเสวนา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 โดยให้เหตุผลว่า งานเสวนาในเรื่องมาตรา 112 จะก่อให้เกิดความแตกร้าวในสังคมไทย และจะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้บุคคลใดๆ กระทำผิดกฎหมายและก่อให้เกิดความไม่สงบสุขในสังคม ซึ่งทางสมาคมได้แจ้งกลับไปว่า เรื่องดังกล่าว ไม่มีพื้นฐานความจริงและปฏิเสธที่จะยกเลิกงานเสวนา”

ตามแถลงการณ์ของทางสมาคมฯ ที่แจกจ่ายไปยังสมาชิกของสมาคมฯ ทางอีเมล ปรากฏเนื้อความต่อไปว่า ทางตำรวจแจ้งว่า ไม่มีกฎหมายใดๆ ห้ามการเสวนาในลักษณะนี้ ทางสมาคมฯ จึงได้ขอหนังสือคำสั่งอย่างเป็นทางการจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อเป็นเครื่องสนับสนุนการยกเลิกงานเสวนาดังกล่าว แต่ถูกปฏิเสธเนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติเกรงว่าสมาคมจะนำไปใช้ให้เกิดการเสียหายต่อชื่อเสียงของคณะฯ

“ที่ผ่านมา สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ได้จัดงานเสวนาเรื่องมาตรา 112 มาแล้วหลายครั้ง และมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นพื้นที่ให้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี อย่างต่อเนื่องมา นับตั้งแต่การรัฐประหารในปีที่ผ่านมา ซึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เราได้จัดการเสวนาในหัวข้อที่หลากหลาย ซึ่งในบางรายการทางเจ้าหน้าที่ทหารเองยังได้มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการให้ข้อมูลถึงแผนการนำพาประเทศ”

แถลงการณ์ของทางสมาคมฯ ได้กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า “เราเชื่อว่าการเสวนาของเรา จะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์”

สำหรับบุคคลที่มีรายชื่อเข้าร่วมสัมมนา มีตั้งแต่บุคคลที่เคารพรักสถาบัน เช่น นายสาธิต เซกัล อดีตผู้ร่วมชุมนุม คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ ที่รู้จักกันในคำย่อ กปปส. ที่ได้เดินขบวนขับไล่ อดีตนายกยิ่งลักษณ์ ชิณวัตร จนตนเองถูกคำสั่งเนรเทศ แต่การเนรเทศไม่บรรลุผล และอาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ที่เคยถูกดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อหลายปีก่อน แต่ได้รับการยกฟ้อง