ถังดับเพลิงระเบิดที่ชั้นใต้ดินธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ มีผู้เสียชีวิต 8 ราย

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2016.03.14
กรุงเทพฯ
TH-scb-620 ลูกค้าเดินออกมาจากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสยามสแควร์ กรุงเทพ ภาพเมื่อ 21 เมษายน 2547
เอเอฟพี

ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนในวันจันทร์ (14 มี.ค. 2559 )นี้ว่า สาเหตุของเหตุการณ์ถังดับเพลิงระเบิดที่สำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เบื้องต้นทราบว่าเกิดจากอุบัติเหตุในระหว่างการทำงานของผู้รับเหมาติดตั้งระบบดับเพลิง

ดร.วิชิต กล่าวว่า โดยสารไพโรเจนซึ่งเป็นสารที่ใช้ดับเพลิงเกิดการรั่วและฟุ้งกระจาย ทำให้เกิดควันเป็นจำนวนมาก จนอาจทำให้คนงานที่อยู่ภายในห้องดังกล่าวหาทางออกไม่พบจนทำให้เกิดการสูญเสีย อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ตนจะรีบเข้าไปเยียวยาให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตให้เร็วที่สุด และขอแสดงความเสียใจไว้ ณ ที่นี้

“แก๊สไพโรเจนที่มีการติดตั้งเอาไว้ในถังดับเพลิงนี้ จะอยู่บริเวณชั้นใต้ดิน ซึ่งเป็นสถานที่เก็บเอกสารของธนาคาร ทั้งนี้หากเกิดเหตุเพลิงไหม้ แก็สชนิดนี้ก็จะทำหน้าที่ป้องกันไฟที่กำลังลุกไหม้ โดยจะพ่นสารไพโรเจนออกมาช่วยดับไฟ ซึ่งจะทำให้บริเวณนั้นไม่มีอ๊อกซิเจน ทั้งนี้ เป็นไปได้ว่าขณะเกิดเหตุเมื่อแก็สชนิดนี้เกิดการพุ่งออกมา ก็จะเข้าไปแทนที่ออกซิเจน จนทำมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว” ดร.วิชิต กล่าว

เมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2559 ที่กรุงเทพฯ ได้เกิดเหตุระเบิดที่ชั้นใต้ดินของ อาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ (เอสซีบีพาร์ค) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย คาดสาเหตุเกิดจากความขัดข้องของระบบดับเพลิงอัตโนมัติ

เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. ศูนย์วิทยุพระราม 199 ได้รับแจ้งเหตุเพลิงใหม่ที่บริเวณห้องเก็บเอกสาร ชั้นใต้ดิน บี2 อาคารเอสซีบีพาร์ค เขตจตุจักร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและสื่อมวลชนจึงได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ และเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้พบว่า บริเวณดังกล่าวไม่มีความร้อนหรือเพลิงไหม้ แต่พบว่า ถังดับเพลิงเคมีแบบอัตโนมัติบริเวณดังกล่าวเกิดระเบิดขึ้น ทำให้เกิดควันสารเคมีฟุ้งกระจายรอบบริเวณ พบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 5 ราย และผู้บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร่งด่วน และยังได้ช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในอาคารออกมาได้อีกกว่า 20 คน

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2559 ศูนย์เอราวัณ สรุปตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 8 ราย โดยเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 5 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 3 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย และสูญหาย 1 ราย

รายชื่อผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย 1. นายวิรัตน์ ดีดพิณ 2. นายพีรพัฒน์ กอยประโคน 3. นายสายฝน แล้นโคตร 4. นายเพชร มหาสนิท 5. นายนัฒฐวุฒิ นาสมพงษ์ ทั้ง 5 รายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 6. นางกรรณิการ์ สินศีริ เสียชีวิตที่ รพ.เกษมราษฎร์ 7. นายยุทธนา คนกลาง 8. นางวิไล ขันทอง เสียชีวิตที่ รพ.วิภาวดี

และรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ ประกอบด้วย 1. นายจีระศักดิ์ สมดี 2. นายสมจิต สัมโย 3. นายใส บุตรโสภา 4. นายถาวร สัมโย นำส่ง รพ.เมโย 5. นายวิชัย โพธิราษฎร์ 6. นายวิเชียร บุตรโสภา นำส่ง รพ.เกษมราษฎร์ 7. นายศรัน แคนหนอง นำส่ง รพ.เปาโล โชคชัย และ ผู้สูญหาย 1 ราย คือ นายฉัตรชัย ขันทอง

ตำรวจลงตรวจพื้นที่แถลงความคืบหน้า

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยหลังลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุ เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 14 มีนาคม 2559 ว่า จากการตรวจห้องเก็บเอกสาร และภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้ตำรวจได้ข้อมูลที่อาจนำพาไปสู่สาเหตุของการเสียชีวิตครั้งนี้ ซึ่งหลังจากที่สรุปหลักฐานทั้งหมด จะได้มีการส่งฟ้องเพื่อลงโทษผู้กระทำผิดแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่ขอเปิดเผยว่าจะฟ้องผู้ใด

“เชื่อว่าเมื่อผลปรากฎออกมาแล้วก็จะเป็นที่รับทราบ รับรู้ และพอใจของทุกฝ่าย อยากจะเรียนอย่างนี้ว่า ไม่ว่าจะทางแพ่ง และทางอาญา เราก็จะดำเนินการคู่ขนานกันไป วันนี้ผมก็ได้สั่งการในหลายๆเรื่อง ทั้งงานสืบสวนและสอบสวน ก็คงจะต้องเร่งรัดดำเนินงานในส่วนนี้ แล้วถ้าผลออกมาเป็นประการใด และจะดำเนินคดีกับใคร เราก็จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป” พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าว

พ.ต.ท.ดร.บัณฑิต ประดับสุข อุปนายก สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าภายในห้องเป็นห้องนิรภัยเก็บเอกสารประเภทกระดาษ คาดว่า ขณะเกิดเหตุผู้รับเหมาอาจใช้สว่านเจาะผนังคอนกรีต แล้วทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งตัวไปถูกที่ตรวจจับควัน ทำให้ตัวตรวจจับควันทำงาน ด้วยการปล่อยแก๊สไพโรเจนที่ใช้ดับเพลิงออกมา ทำให้ออกซิเจนในห้องถูกดูดออกไป

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง