คนร้ายวางระเบิดใน ร.พ. พระมงกุฎฯ เจ็บ 21 ราย

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2017.05.22
กรุงเทพฯ
TH-soldiers-1000 เจ้าหน้าที่ทหารคุมเข้มหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า หลังเกิดเหตุระเบิดบริเวณห้องจ่ายยา เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2560
เบนาร์นิวส์

ในวันจันทร์ (22 พฤษภาคม 2560) นี้ เกิดเหตุคนร้ายได้ลอบวางระเบิดบริเวณหน้าห้องจ่ายยา อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 21 ราย

เหตุระเบิดครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ที่บริเวณหน้าห้องวงษ์สุวรรณ ใกล้ห้องจ่ายยา ชั้น 1 ของอาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นเหตุให้กระจกกั้นห้อง และเก้าอี้ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจพบเศษท่อพีวีซี ตะปูขนาดเล็ก และดินระเบิด กระจายในที่เกิดเหตุซึ่งคาดว่าจะเป็นชิ้นส่วนของระเบิด

หลังจากเกิดเหตุ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยต่อสื่อมวลชน จากโรงพยาบาลพระมุงกุฎเกล้า ว่า จากการตรวจสอบเชื่อว่าเป็นการลอบวางระเบิด โดยได้มีการกันพื้นที่เกิดเหตุเพื่อการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว แต่ไม่มีการอพยพเจ้าหน้าที่หรือผู้ป่วยในห้องอื่นๆ ออกจากโรงพยาบาล

“มีเศษถ่านและมีเศษสายไฟ จุดที่พบเป็นจุดเปิดสาธารณะน่าจะมีภาชนะบรรจุมา รัศมีการทำลายล้าง 2-3 เมตร... ทั้งอีโอดีและสุนัขเคไนน์ ยืนยันแล้วว่าเป็นวัตถุระเบิด ชนิดต้องรอรายละเอียด” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ทั้งนี้ พลตรีชาญณรงค์ นาคสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวม 21 ราย มีอยู่ 13 รายที่กลับบ้านได้แล้ว และอีกแปดรายที่ต้องรักษาพยาบาลต่อ

ในตอนเย็น ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงข่าวว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุในวันนี้ เป็นกลุ่มเดียวกันกับคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดที่หน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาลเก่า เมื่อวันที่ 5 เมษายน นี้ และเหตุระเบิดที่หน้าโรงละครแห่งชาติ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยรวม 4 ราย โดยเป็นไปป์บอมบ์ ใช้ท่อพีวีซี แต่ระเบิดในวันนี้ มีตะปูที่เป็นอันตรายถึงชีวิต

“พวกตะปู ครั้งที่หนึ่งครั้งที่สองยังไม่มี แต่คราวนี้มี ทำให้ตายหรือบาดเจ็บสาหัสได้... เป็นระเบิดแสวงเครื่อง ไปป์บอมบ์ อยู่ในท่อพีวีซี” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คนร้ายเป็นกลุ่มการเมือง หรือกลุ่มผู้ก่อเหตรุนแรงสามจังหวัดชายแดนใต้หรือไม่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตอบว่า มีความเป็นไปได้พอๆ กัน

“(ผู้ก่อเหตุรุนแรง)ภาคใต้ เขาก็มีศักยภาพของเขา แต่ถ้าเขาขยายพื้นที่ปฏิบัติการออกมา ยังไม่รู้” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวตอบ

การเกิดระเบิดป่วนเมืองในครั้งนี้ เกิดขึ้นในวันที่ครบรอบสามปีการรัฐประหารรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ถูกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ ที่รู้จักในชื่อย่อ กปปส. นำประชาชนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินขบวนขับไล่ จนเกิดความปั่นป่วน และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในขณะนั้น ประกาศยึดอำนาจในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

ด้านพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวตอบผู้สื่อข่าวว่า เหตุระเบิดในวันนี้ ไม่ได้มีความเกี่ยวพันกับวันครบรอบการรัฐประหารเพราะฝ่ายก่อกวนคอยหาโอกาสอยู่แล้ว

“ไม่จำเป็นต้องครบรอบ คือ คนไม่ชอบ คสช. จะรอจังหวะเวลาโอกาส... ถ้ามีโอกาสทำเท่านั้นเอง” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว

“เป็นระเบิดแรงต่ำ เมื่อเอามาใช้ในลักษณะนี้ ผลถึงแม้จะไม่กว้างนัก แต่ก็เป็นอันตรายกับพี่น้องประชาชน ทั้ง 3 เคส เป็นชนิดเดียวกันคือ ไปป์บอมบ์ เราจะวางระบบในการรักษาความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น เราจะมีกำลังพลทั้งในและนอกเครื่องแบบในการทำงานด้านการข่าวหรือการลาดตระเวณในพื้นที่ล่อแหลมให้มากขึ้น” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวเพิ่มเติม

“เป็นจุดที่เลวร้าย แม้ในระหว่างสงคราม ระหว่างการรบก็ยังไม่มีใครทิ้งระเบิดลงไปในโรงพยาบาล เอาระเบิดเข้าไปวางในโรงพยาบาลซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นคนเจ็บ คนชรา เป็นเรื่องที่สังคมต้องช่วยกันประณาม ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ ต้องเร่งรัดช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการให้เบาะแส” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวเพิ่มเติม

ด้านแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการแผนกเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์ นิวยอร์กกล่าวประณามการโจมตีว่า เป็นอาชญากรรมที่ไม่อาจให้อภัยได้

"การวางระเบิดในโรงพยาบาลเป็นการละเมิดสิทธิที่อุกอาจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่คำนึงถึงชีวิตมนุษย์” แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการแผนกเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว "ระเบิดโรงพยาบาลไม่เพียงแต่เป็นอันตรายกับชีวิตคนป่วย และบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น แต่เป็นการทำลายการรักษาพยาบาลสำหรับผู้อื่นอีกมากมาย"

เหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ และยิงราษฎร ในจังหวัดชายแดนใต้

ในวันเดียวกัน ศูนย์รับแจ้งเหตุด่วน สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดบริเวณทางเข้ามัรกัส ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 4 ราย แหล่งข่าวท้องถิ่นรายงาน

ร.ต.อ.หาญพล รามด้วง ร้อยเวรปราบปราม สภ.เมืองยะลา ได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยแม่กอเนี่ยวยะลา เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด จังหวัดยะลา เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันทีหลังรับแจ้ง และได้ช่วยกันลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บนำส่งรพ.ศูนย์ยะลา โดยเป็นเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดหน่วยเฉพาะกิจยะลา ทราบชื่อ คือ ส.อ.วีระ มีฤทธิ์ พลฯอภิศักดิ์ รักดี พลฯ ไกรศร เรืองกิจ และ พลฯ ดำรง พิลาพันธ์ ได้รับบาดเจ็บที่แขนและขา

จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ทหารทั้ง 4 นาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ในเส้นทางดังกล่าว ปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุที่คนร้ายได้นำระเบิดมาซุกเอาไว้ล่วงหน้า ซึ่งเชื่อว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 10 กก.ได้จุดชนวนระเบิดขึ้นทันที เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

การก่อเหตุนี้ เชื่อว่าเป็นการกระทำของแนวร่วมกลุ่มใหม่ ซึ่งมี นายรอกิ ดอเลาะ เป็นแกนนำก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่

ในอีกเหตุการณ์หนึ่ง ในเฟซบุ๊คของ กลุ่มต่อต้านมุสลิมหัวรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนใต้ รายงานเหตุคนร้ายยิงสามีภรรยาคู่หนึ่ง โดย นายวีระ ใจเย็น อายุ 61 ปี สามี ได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และนางอมร ใจเย็น อายุ 60 ปี ภรรยา ได้รับบาดเจ็บ บนถนนสาย 42 บ.ด่าน ม.5 ต.ควน อ.ปะนาเระ จังหวัดปัตตานี

โดยเจ้าหน้าที่พบใบปลิวที่คนร้ายวางไว้หลังก่อเหตุ มีข้อความว่า"นี่สำหรับรัฐบาลไทย"

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง