กรมศุลฯ จับงาช้างแอฟริกาลักลอบเข้าไทย 330 กิโลกรัม
2017.03.07
สมุทรปราการ

ในวันอังคาร (7 มีนาคม 2560) นี้ เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร และตำรวจ แถลงข่าวการจับกุมและตรวจยึดงาช้างแอฟริกาที่ถูกชาวแกมเบียลักลอบขนส่งจากต้นทางประเทศมาลาวีเข้าประเทศไทยจำนวน 422 ท่อน น้ำหนักรวม 330 กิโลกรัม มูลค่า 17 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาได้ซุกซ่อนงาช้างในกล่องหินรอการเจียระไน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ในวันที่ 3-4 มีนาคม 2560
นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ของกลางจากประเทศมาลาวีที่เจ้าหน้าที่สามารถยึดได้ครั้งนี้มีจำนวน 15 กล่อง สำแดงชนิดสินค้าเป็น หินรอการเจียระไน ถูกขนส่งมายังประเทศไทยโดยเครื่องบินของสายการบินเอธิโอเปีย 2 เที่ยวบิน ระหว่างวันที่ 3-4 มีนาคม 2560 แต่เมื่อเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเอ็กซ์เรย์กลับพบว่า มีงาช้างปะปนอยู่ด้วย จึงเตรียมควบคุมตัวผู้มารับสินค้า กระทั่งวันที่ 5 มีนาคม 2560 สามารถควบคุมตัวนายไซนี่ จาดเน่ ชาวแกมเบีย อายุ 33 ปี ซึ่งเดินทางมารับสินค้า และสารภาพว่า รับค่าจ้างเป็นเงิน 6 หมื่นบาท เพื่อเป็นผู้มารับสินค้า และนำไปส่งยังที่หมายแห่งหนึ่งในประเทศไทย
“เราได้ตัวผู้ต้องหาที่เป็นชาวแกมเบีย เขาก็อยู่ในไทยมาหลายปีแล้ว ได้มีการจับกุมตัวไว้เพื่อที่จะสืบสวนหาเครือข่ายต่อไป เพราะชัดเจนว่าทำเป็นกระบวนการ ปลายทางก็คือประเทศไทย เพราะเรามีฝีมือในการแกะสลัก ก็เลยลักลอบเข้ามา แล้วจึงส่งต่อไปยังประเทศที่เขาซื้อพวกนี้ เราจับผู้ต้องหาได้หนึ่งคน แล้วก็คงขยายผลว่าใครอยู่เบื้องหลัง” นายกุลิศกล่าว
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า เบื้องต้น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในข้อหาครอบครอง และนำเข้างาช้าง พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พระราชบัญญัติงาช้าง และพระราชบัญญัติศุลกากร อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขยายผลเพื่อหาผู้ร่วมกระทำผิดต่อไป
“เบื้องต้นเขารับสารภาพว่า มีคนมาให้เขามารับของอีกทีนึง เพราะฉะนั้นตรงนี้ต่อไปเราต้องขยายผลว่าใครให้เขามา แล้วเขาเอาไปไหน จริงๆ แล้วจะเอาไปที่ไหนแน่ ที่ผ่านมามีการดำเนินการ แต่ไม่มีปรากฎชัดเจนว่ามีงาช้างด้วย” พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าว
สำหรับการแถลงข่าวครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้พาตัวผู้ต้องหามาร่วมแถลงข่าวด้วย แต่ได้นำของกลางซึ่งเป็นงาช้างมาแสดงต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่า หลังจากเก็บหลักฐานจากของกลางทั้งหมดแล้วจะได้มีการนำงาช้างทั้งหมดที่ยึดได้มาทำลายทิ้งต่อไป
นับตั้งแต่ พ.ร.บ.งาช้างถูกบังคับใช้ครั้งแรกในช่วงกลางปี 2558 ทำให้การครอบครองและนำเข้างาช้างแอฟริกันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย โดยมีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี และโทษปรับไม่เกิน 6 ล้านบาทหรือทั้งจำและปรับ
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2558 ถึงปี 2560 กรมศุลกากร สามารถยึดงาช้างที่ถูกลักลอบนำเข้าประเทศไทยได้แล้ว 3,027 รายการ สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 24 คน โดยการจับกุมงาช้างครั้งนี้ถือว่าเป็นรายแรกของปี 2560
นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร (ซ้าย) และพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ขวา) แสดงงาช้างของกลางแก่สื่อมวลชน 7 มีนาคม 2560