บิดาไผ่ดาวดินเชื่อกระบวนจับกุมคดีไผ่แชร์ข่าวบีบีซีไม่ถูกต้อง
2016.12.05
กรุงเทพฯ

หลังจากเหตุการณ์ที่นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา(ไผ่ ดาวดิน) นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นถูกจับกุมตัวในวันเสาร์ที่ผ่านมา จากการกระทำที่อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (พ.ร.บ.คอมฯ) ภายหลังจากเป็นหนึ่งในผู้แชร์เฟซบุ๊คจำนวนมากกว่า 2500 ราย ที่ได้เห็นในหน้าเฟสบุ๊คที่เผยแพร่รายงานข่าวของสำนักข่าวบีบีซีไทย (BBC Thai) เรื่อง “พระราชประวัติกษัตริย์พระองค์ใหม่ของไทย”
ก่อนที่นายจตุภัทรจะได้รับอนุญาตจากศาลจังหวัดขอนแก่นให้ปล่อยตัวชั่วคราวในวันอาทิตย์ โดยการวางหลักทรัพย์ประกันตัวเป็นเงิน 400,000 บาท ซึ่งเป็นเงินจากกองทุนพลเมืองโต้กลับที่เปิดบัญชีไว้ ในนาม "กองทุนระดมเพื่อประกันตัวเพื่อน" เพื่อรับบริจาคสำหรับช่วยเหลือผู้ที่ถูกควบคุมตัวในคดีการเมือง โดยมอบผ่านทนายความจากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนไป
นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา บิดาของนายจตุภัทรได้เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ผ่านโทรศัพท์ ในวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2559 นี้ โดยเห็นว่ากระบวนการจับกุมตัวนายจตุภัทร์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจครั้งนี้ไม่เหมาะสม เนื่องจากก่อนจับกุมไม่ได้ทำการออกหมายเรียก และใช้การออกหมายจับ พร้อมทั้งเข้าควบคุมตัวทันที ซึ่งไม่เป็นไปตามขั้นตอนปกติ
“ตำรวจบุกไป 4-5 คันรถเลย ไปชุดใหญ่เลย คดีนี้ไม่ได้มีการออกหมายเรียก ออกหมายจับแล้วก็มาจับเลย การจับนั้นก็ไม่ให้ติดต่อญาติ ไม่ให้ติดต่อทนาย ทั้งที่ทนายของไผ่ก็ไปรอที่ สภ.ขอนแก่น ก่อนตำรวจจะพาตัวไผ่จากแก้งคร้อ(จังหวัดชัยภูมิ)มาขอนแก่น เขาก็พาไปวนโน่นวนนี่อะไรของเขาแหละ แล้วก็ไปเตรียมทนายของตำรวจไว้ให้ไผ่ แต่ไผ่ไม่ยอม นั่นคือกระบวนการที่มันไม่ค่อยชอบ” นายวิบูลย์กล่าว
“ตามที่ไผ่บอกตำรวจมีทั้งจากท้องที่ สันติบาล แล้วก็ควบคุมฝูงชน โอ้โหทำอย่างกับจำเลยคดีใหญ่ระดับโลก แล้วก็มีในห้อง(สืบสวน)ประมาณ 20 นาย แต่ไผ่เขาไม่กลัวอยู่แล้ว ก็ได้เถียงกันเรื่องสิทธิ จนตำรวจต้องยอมให้เรียกทนายของไผ่จากขอนแก่นไป” นายวิบูลย์เพิ่มเติม
นายวิบูลย์ระบุว่า กระบวนการจับกุมตัวและดำเนินคดีนายจตุภัทรควรจะอยู่บนฐานของความยุติธรรม และกระบวนการของเจ้าหน้าที่รัฐควรมีความโปร่งใส และในฐานะที่ตนเองก็มีอาชีพทนายความเห็นว่า ในคดีนี้ไม่มีความจำเป็นต้องฝากขังนายจุตภัทร์
นายวิบูลย์กล่าวอีกว่า เบื้องต้น ทนายความของนายจตุภัทรจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนต้องการจะยื่นคัดค้านกระบวนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ และยื่นประกันตัว แต่หลังจากได้ปรึกษากันกับครอบครัวแล้ว ได้ตกลงให้ทนายความไม่ยื่นคัดค้านฯ และกระทำเพียงการยื่นพิจารณาการประกันตัวเท่านั้น เนื่องจากในวันอาทิตย์ ศาลจะเปิดทำการเพียงครึ่งวัน ครอบครัวเกรงว่าหากยื่นคัดค้านพร้อมกับการยื่นประกันจะทำให้เสียเวลาในการพิจารณา และกระบวนการประกันตัวอาจไม่เสร็จสิ้นในเวลา ซึ่งนายจตุภัทร์อาจต้องถูกควบคุมตัวต่อ
ซึ่งรายงานข่าวของสำนักข่าวบีบีซีไทย (BBC Thai) เรื่อง “พระราชประวัติกษัตริย์พระองค์ใหม่ของไทย” ที่มีผู้กดถูกใจกว่า 27,000 ครั้ง และถูกเผยแพร่ต่อกว่า 2,500 ครั้ง ในจำนวนเชิงประจักษ์ครั้งล่าสุดจากหน้าเฟซบุ๊คของสำนักข่าวบีบีซีไทย เนื่องจากถูกวิพากษ์-วิจารณ์ผ่านข้อความบนสังคมออนไลน์ว่า เป็นรายงานข่าวที่เขียนอย่างมีอคติ มีการใส่ข้อมูลซึ่งเป็นข่าวลือปะปนกับข้อเท็จจริง และนำเสนอข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง
สำหรับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อการดำเนินคดีครั้งนี้ เบนาร์นิวส์ได้ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.วิเศษ ภักดีวุฒิ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นแล้ว แต่ได้รับคำตอบว่า “ไม่สะดวกในการให้ข้อมูล”
ปัจจุบัน หลังจากได้รับการประกันตัวนายจตุภัทร์ได้ไปอาศัยอยู่ในหอพักในจังหวัดขอนแก่น เพื่อเตรียมตัวสอบไล่ในวันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2559 ที่จะถึง โดยศาลจังหวัดขอนแก่นได้นัดให้นายจตุภัทร์เข้ารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 23 มกราคม 2560
'ไม่เอนเอียง เป็นอิสระ’
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวบีบีซีก็ยืนหยัดต่อการรายงานข่าวของบีบีซีภาคภาษาไทย เรื่อง “พระราชประวัติกษัตริย์พระองค์ใหม่ของไทย”
"บีบีซีไทยก่อตั้งขึ้นเพื่อเสนอข่าวที่เป็นกลาง เป็นอิสระ และถูกต้อง ในประเทศที่สื่อเผชิญกับข้อจำกัดมากมาย และเรามีความมั่นใจว่า การรายงานข่าวเรื่องนี้เป็นไปตามหลักการของกองบรรณาธิการของบีบีซี ซึ่งเราจะไม่ขอแสดงความคิดเห็นในแต่ละกรณี หากเราทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ เพื่อความปลอดภัยของพนักงานบีบีซีทุกคนทั่วโลก" ชาร์ล็อต มอร์แกน โฆษกสำนักข่าวบีบีซี ประจำกรุงลอนดอน กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ทางอีเมล
การถูกดำเนินคดีของไผ่ ดาวดิน
สืบเนื่องจากในเช้ามืดของวันศุกร์ที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา(ไผ่ ดาวดิน) นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่อีสาน ได้เผยแพร่รายงานข่าวของสำนักข่าวบีบีซีไทย (BBC Thai) เรื่อง “พระราชประวัติกษัตริย์พระองค์ใหม่ของไทย” ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว
ต่อมาในเช้าวันเสาร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวนายจตุภัทร์ ขณะกำลังร่วมกิจกรรมเดินธรรมยาตรา เพื่อลุ่มน้ำลำปะทาว ที่วัดป่าโปร่งช้าง อำเภอแก่งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีโดยวัดป่าสุคะโต ที่มีพระไพศาล วิศาโลเป็นเจ้าอาวาส
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้อำนาจตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่นหมายจับเลขที่ 433/2559 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2559 ว่านายจตุภัทรกระทำความผิดที่อาจเข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
การถูกดำเนินคดีครั้งนี้ทำให้ปัจจุบัน นายจุตภัทร์มีคดีที่ยังอยู่ในการพิจารณารวม 5 คดี จากความผิดก่อนหน้าเกี่ยวกับการขัดขืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติเลขที่ 3/2558, ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116, ความผิดเกี่ยวกับการรณรงค์การออกเสียงประชามติที่อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ และความผิดเกี่ยวกับการจัดงาน “พูดเพื่อเสรีภาพ” ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น