ศาลตัดสินจำคุกสรยุทธ สุทัศนะจินดา กว่า 13 ปี ฐานโกงเวลาโฆษณา อสมท.

ในวันจันทร์ (29 กุมภาพันธ์ 2559) นี้ ศาลอาญาชั้นต้น ได้พิพากษาตัดสินให้จำคุก นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา และพวกเป็นระยะเวลา 13 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ในคดีที่บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของนายสรยุทธได้สนับสนุนให้พนักงานบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จัดตารางโฆษณาเกินเวลา ทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ ที่ห้องพิจารณาคดี 912 ศาลาอาญากรุงเทพฯ ได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.313/2558 ที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด อดีตพนักงานจัดทำตารางโฆษณาของบริษัท อสมท จำกัด ในความผิดที่ระบุว่าช่วงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 - 28 เมษายน 2549 นางพิชชาภา ได้จัดทำตารางโฆษณารวมในรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต ไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลา เพื่อเรียกเก็บเงินจากบริษัทไร่ส้ม 17 ครั้ง ทำให้ อสมท. เสียหาย 138 ล้านบาทเศษ และยังเรียกรับเงินกว่า 7 แสนบาท จากนายสรยุทธ และพวก เป็นการตอบแทน ศาลจึงตัดสินให้ลงโทษจำคุก 30 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์จึงลดโทษเหลือจำคุก 20 ปี

ส่วนนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา มีโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนให้มีการกระทำความผิด ศาลจึงตัดสินให้ลงโทษจำคุก 20 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์จึงลดโทษเหลือ 13 ปี 4 เดือน และปรับบริษัทไร่ส้ม จาก 120,000 บาท แต่ลดโทษเหลือ 80,000 บาท ไม่รอลงอาญา

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ของบริษัทไร่ส้ม ที่มีส่วนในการกระทำผิดในข้อหาเดียวกันอีกสามราย คือ น.ส.อังคนา วัฒนมงคลศิลป์ น.ส.มณฑา ธีระเดช เจ้าหน้าที่ บจก.ไร่ส้ม และ น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม ในฐานะ กก.ผจก.บจก.ไร่ส้ม ถูกลงโทษเช่นเดียวกันกับนายสรยุทธ์

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. ศาลได้อนุญาตให้จำเลยสามารถประกันตัวได้ในวงเงินคนละ 2 ล้านบาท ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และต้องรายงานตัวต่อศาลทุก 30 วัน

หลังจากการประกันตัว นายสรยุทธ์ได้กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า จะดำเนินการต่อสู้คดี ตามขั้นตอน

ประวัติคดีโกงเวลาโฆษณา อสมท ของ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด

กุมภาพันธ์ 2548 บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ได้ทำสัญญากับบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เพื่อผลิตรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.00-13.00 น. ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2548 ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2549

กรกฎาคม 2549 นางบุณฑนิก บูลย์สิน รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด 1 อสมท ได้สังเกตพบว่า รายการข่าวเที่ยงคืน มีการออกอากาศล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนด จึงได้ทำการตรวจสอบ และเมื่อสอบถามนางพิชชาภา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รับผิดชอบเรื่องตารางเวลา นางพิชชาภาได้รับสารภาพต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่ว่า บริษัท ไร่ส้มฯ มีการโฆษณาเกินเวลา โดยไม่มีการรายงานเพื่อเรียกเก็บเงิน และนางพิชชาภาได้ใช้น้ำยาลบคำผิดเฉพาะคิวโฆษณาเกินเวลาในส่วนของบริษัท ไร่ส้มฯ ในใบคิวโฆษณารวมของ อสมท เพื่อปกปิดความผิดที่ได้กระทำขึ้นตามคำแนะนำของนายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา ธีระเดช พนักงานของบริษัท ไร่ส้มฯ เรื่องดังกล่าวจึงถูกส่งต่อให้ สำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณา

ในการไต่สวนของ ป.ป.ช. พบหลักฐานว่า นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด (ชื่อเดิม-นางชนาภา บุญโต) เจ้าหน้าที่ธุรการระดับ 5 สำนักกลยุทธ์การตลาด อสมท เป็นผู้รายงานโฆษณาเกินเวลาเพื่อเรียกเก็บเงินจากบริษัท ไร่ส้มฯ ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2549 และนายสรยุทธ ได้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คของธนาคารธนชาติให้กับนางพิชชาภาโดยมีการทำเอกสารหักภาษี ณ ที่จ่ายรวม 6 ครั้ง เป็นเงิน 739,770 บาท เพื่อตอบแทนแก่นางพิชชาภา

ปี 2551 (คดีแพ่ง) นาย สรยุทธ ยื่นฟ้องบริษัท อสมทฯ ต่อศาลปกครอง เพื่อให้ชำระเงินค่าโฆษณาเกินส่วนแบ่งเวลาตามที่ตกลงกันไว้ในสัดส่วน 50/50 และไม่ให้ส่วนลดทางการค้า 30% ตามข้อสัญญา รวมเป็นเงินกว่า 55 ล้านบาท

กันยายน 2555 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดว่า การกระทำของนางพิชชาภา มีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีความผิดทางอาญา ตามมาตรา 6, 8, 11 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 และนายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา มีความผิดฐานสนับสนุนพนักงานกระทำความผิดตามมาตรา 6, 8, 11 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

ป.ป.ช. จึงได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้กับอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อยื่นฟ้องในชั้นศาล แต่ด้าน อสส. เห็นว่า คดียังไม่สมบูรณ์ กระบวนการเอาพิจารณาคดีจึงเลื่อนออกไป

กันยายน 2556 (คดีแพ่ง) ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาว่า ทั้งสองฝ่ายมีการโฆษณาเกินเวลาจริง และมีเจ้าหน้าที่ อสมท รู้เห็น ถือว่าเป็นความบกพร่องของบริษัท อสมทฯ ที่ไม่ดำเนินการตรวจสอบ จึงพิพากษาให้คืนเงินค่าโฆษณาดังกล่าวแก่บริษัท ไร่ส้มฯ แต่ อสมท ได้ยื่นเรื่องสู้คดีต่อในชั้นศาล เนื่องจากเห็นว่า อสมท ไม่สมควรต้องจ่ายค่าโฆษณาดังกล่าว

มกราคม 2558 ศาลอาญาเริ่มกระบวนการพิจารณา และการนัดไต่สวนพยานและจำเลย ในความผิดคดีอาญา

กรกฎาคม 2558 (คดีแพ่ง) ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ บริษัท อสมทฯ ไม่ต้องจ่ายเงินค่าโฆษณา 55 ล้านบาท คืนให้กับบริษัท ไร่ส้มฯ เพราะปรากฎข้อเท็จจริงว่า บริษัท ไร่ส้มฯ ไม่เคยทำหนังสือขอส่วนลดค่าโฆษณากับ อสมท และการที่ อสมท ขายโฆษณาเกินเวลาไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท ไร่ส้มฯ เพราะ อสมท ใช้เวลาการออกอากาศของทางช่องเอง และที่ผ่านมา มีการโฆษณาเกินเวลามาโดยตลอด โดยที่บริษัทไม่ได้ทำหนังสือขอส่วนลดให้ถูกต้อง ดังนั้น การที่บริษัท ไร่ส้มฯ ต้องชำระค่าโฆษณาของปี 2549 ตามที่ อสมท ได้เรียกเก็บ โดยไม่ได้รับส่วนลดทางการค้า 30 % ถือว่า “ถูกต้องแล้ว”

ปลายปี 2558 ศาลอาญา นัดสืบพยานโจทก์ และจำเลย หลายครั้ง

กุมภาพันธ์ 2559 ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา และจำเลยที่เหลืออีก 3 คน มีความผิดและต้องโทษจำคุก และให้จำเลยทั้งหมดประกันตัว เพื่อสู้คดีในศาลชั้นต่อไป