ทนายอานนท์ นำภา ถูกฟ้องหมิ่นศาลฯและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
2018.01.10
กรุงเทพฯ

นายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ในวันพุธที่10 มกราคม 2561 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หมิ่นศาล และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากกรณีการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ค วิจารณ์คำพิพากษาศาลจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2560 เกี่ยวกับการหมิ่นศาลของจ่านิว และพวกรวม 7 คน ในการจัดกิจกรรมให้กำลังใจไผ่ ดาวดิน
“ทุกคนที่ติดตามเฟซบุ๊คของผมคงรู้อยู่แล้วว่า มันไม่มีอะไรที่เคยผิดกฎหมาย แล้วก็เป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตตามรัฐธรรมนูญ บทบาทต่อจากนี้จะไม่เปลี่ยน ยิ่งเป็นยาชูกำลัง สำหรับคนที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้อง มันเหมือน ว่าว เวลามันโดนลมแรงๆ มันยิ่งขึ้นสูง ก็ยิ่งมัน” นายอานนท์กล่าวต่อสื่อมวลชน
ทั้งนี้ นายอานนท์ได้ปฎิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และจะยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 30 วัน โดยหากไม่ยื่นจะถือว่าไม่ประสงค์ให้การ ในวันนี้ได้รับการปล่อยตัว โดยไม่ต้องใช้หลักประกัน แต่เจ้าหน้าที่ได้นัดมาพบอีกครั้ง ในวันที่ 22 มกราคม 2561
นายอานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วย นายสมชาย หอมลออ อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อธิลักขณ์ หวังสิริวรกุล รอง ผกก. (สอบสวน) กก.3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ดูหมิ่นศาล และ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ)
โดยนายอานนท์ ถูกฟ้องจากการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ คำตัดสินของศาลจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2560 ที่สั่งจำคุกนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว เป็นเวลา 6 เดือน และปรับ 500 บาท โดยโทษให้รอลงอาญา 2 ปี และนักศึกษาดาวดิน 6 คน ให้รอการลงโทษ 2 ปี สั่งให้คุมประพฤติ บริการสังคม และห้ามคบค้าสมาคมหรือรวมตัวกันทำกิจกรรม หรือกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว จากการที่บุคคลทั้ง 7 ราย ละเมิดอำนาจศาลด้วยการทำกิจกรรมให้กำลังใจ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา (ไผ่ ดาวดิน) นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่อีสาน ซึ่งถูกฟ้องคดีตามความผิดมาตรา 112 ของกฎหมายอาญา จากการโพสต์ข่าวของบีบีซีไทยเกี่ยวกับกษัติรย์ไทยพระองค์ใหม่ ซึ่งนายอานนท์ได้แสดงความคิดเห็นต่อคำพิพากษาดังกล่าวว่า
“สั่งห้ามคบค้าสมาคม.. ศาลเอาอำนาจอะไรไปสั่งใครห้ามคบกับใคร ตลกจริงๆ.. ศาลทำตัวเองแท้ๆ ถ้าการทำหน้าที่ของท่านจะถูกชาวบ้านชื่นชมหรือดูแคลน พึงรู้ไว้ว่า มันเกิดจากท่านทำตัวท่านเอง ผมหมายถึงศาลจังหวัดขอนแก่นนั่นหล่ะครับ” ตอนหนึ่งของข้อความที่นายอานนท์โพสต์ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2560
สำหรับกรณีของนายอานนท์ นั้น พ.ต.ท. สุภารัตน์ คำอินทร์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เป็นผู้แจ้งความต่อ ร.ต.อ.ณัฐษนัย มงคลกุล รอง สว.(สอบสวน) กก.1 ช่วยราชการ กก.3 บก.ปอท. ซึ่งความผิดฐานดูหมิ่นศาล มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
ด้าน นายสมชาย หอมลออ ที่ปรึกษาสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางมาให้กำลังใจนายอานนท์ โดยระบุว่า “น่าจะเป็นคดีปิดปาก คือ ไม่ต้องการให้คุณอานนท์ เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมในการส่งเสริมคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอีก รวมถึงเป็นการส่งสัญญาณให้ทนายความคนอื่นๆ รวมถึงนักกิจกรรมอื่นๆ ว่านี่เป็นตัวอย่าง... เป็นลักษณะของการข่มขู่นักกิจกรรม หรือนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนอย่างหนึ่ง” นายสมชายกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. ปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับคดีของนายอานนท์ ขณะที่เบนาร์นิวส์พยายามติดต่อขอความเห็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้แล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับเช่นกัน
นายอานนท์ เข้าร่วมกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในการช่วยเหลือผู้ที่ถูกจับกุม ควบคุมตัว และถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายพิเศษ ของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) และร่วมทำกิจกรรมเป็นนักเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งทำให้นายอานนท์ ถูกดำเนินคดีแล้วอย่างน้อย 6 คดี จากการต่อต้านรัฐประหารโดย คสช.