พล.อ.ประยุทธ์: กม.ไทยบังคับในต่างประเทศไม่ได้ ในการเยือนญี่ปุ่นของ2อดีตนายกฯ

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2018.04.03
กรุงเทพฯ
180403-TH-prayuth-620.jpg พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังประชุม ครม.และคสช.ที่ทำเนียบรัฐบาลวันที่ 3 เมษายน 2561
นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์

ในวันอังคารนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า กฎหมายไทยไม่สามารถใช้บังคับในต่างประเทศได้ หากรัฐบาลได้ประสานการขอส่งตัวนักโทษไปหมดแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบรับกลับมา หลังจากสื่อมวลชนได้ถามเกี่ยวกับการปรากฏตัวของนายทักษิณ-น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 2 อดีตนายกรัฐมนตรี ในงานเปิดตัวหนังสือของนักการเมืองชาวญี่ปุ่น ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ทำเนียบรัฐบาลตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามถึงความรู้สึก ต่อการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นเพื่อร่วมงานเปิดตัวหนังสือนายฮาจิเมะ อิชิอิ อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 ของอดีตนายกรัฐมนตรีตระกูลชินวัตรทั้งสองคนว่า รัฐบาลทหารรู้สึกเหมือนถูกเยาะเย้ยที่ไม่สามารถนำตัวทั่งคู่มาลงโทษหรือไม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุ ไม่รู้สึกเช่นนั้นแต่อย่างใด

“กฎหมายเขาบังคับต่างประเทศได้ไหม เขาไม่ส่งตัวก็คือไม่ส่ง ก็ได้ประสานไปหมดแล้ว ถ้าเขาไม่ตอบรับกลับมา ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ที่รัฐบาลในประเทศปลายทาง เขาอนุมัติเป็นครั้งคราว ไม่ได้ให้ตลอดไป อันนี้ที่เขาให้เป็นเรื่องหนังสือ ผมจะไปรู้สึกอะไรกับเขา เขาน่าจะอายผมมากกว่า ทำผิดกฎหมายแล้วไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายดอน ปรมัตวินัย ระบุต่อสื่อมวลชนในห้วงเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ ว่า รัฐบาลพยายามส่งหนังสือขอตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมถึงนายทักษิณไปยังประเทศอังกฤษ และประเทศญี่ปุ่นแล้ว แต่ขึ้นอยู่ว่า รัฐบาลประเทศนั้นๆจะตอบรับหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีปฎิกริยาจากรัฐบาลต่างประเทศ

ต่อการปรากฎตัวที่ประเทศญี่ปุ่นของ อดีตนายกรัฐมนตรีตระกูลชินวัตรสองราย ซึ่งต้องคดีถือเป็นการปรากฏตัวในเอเชียครั้งที่สอง หลังจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมามีภาพ นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในประเทศญี่ปุ่น และเกาะฮ่องกง ประเทศจีนมาแล้ว โดยตัวแทนรัฐบาลได้กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า ไทยพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อติดตามนำตัวอดีตนายกรัฐมนตรีทั้งสองรายกลับมารับโทษตามกฎหมาย แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากต่างประเทศด้วยจึงจะประสบความสำเร็จ

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินให้ลงโทษจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญาต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากความผิดในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยให้เหตุผลว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์รับรู้การทุจริตในการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G2G) แต่ไม่ดำเนินการยับยั้ง จึงถือเป็นการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ อย่างไรก็ตาม ศาลเคยนัด น.ส.ยิ่งลักษณ์มาฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 แล้วหนึ่งครั้ง แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้เดินทางมาตามนัด และไม่มีใครพบตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์อีก ซึ่งรัฐบาลระบุภายหลังว่า อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงได้เดินทางออกนอกประเทศไปยังประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แล้ว แต่ยังไม่เคยมีการเผยแพร่ภาพถ่ายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในประเทศอื่นหลังจากนั้น

กระทั่งวันที่ 29 ธันวาคม 2560 มีการเผยแพร่ภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในประเทศอังกฤษ เป็นครั้งแรกบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นภาพถ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ระยะไกลในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เป็นชุดภาพ 3 ภาพ โดยภาพหนึ่งในนั้น มีบุคคลหน้าคล้าย นายศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ด้วย และครั้งที่สองถูกเผยแพร่ในเช้าตรู่ของวันที่ 5 มกราคม 2561 เป็นภาพผู้หญิงคนหนึ่งถ่ายคู่กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยทั้ง 2 ครั้ง ยังไม่ทราบต้นทางผู้เผยแพร่

ขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร ถูกทำรัฐประหารยึดอำนาจในวันที่ 19 กันยายน 2549 ขณะเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา ก่อนเดินทางกลับมายังประเทศไทยอีกครั้งในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 หลังจากที่พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง และมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี

11 สิงหาคม 2551 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษา คดีที่นายทักษิณ เป็นจำเลยจากความผิดในการทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ร่วมกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ซึ่งก่อนหน้านั้นนายทักษิณได้ขออนุญาตศาลเดินทางไปชมกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศจีนในวันที่ 31 กรกฎาคม 2551 แต่นายทักษิณไม่ได้กลับมาฟังคำพิพากษาตามที่ศาลนัด

21 ตุลาคม 2551 ศาลฎีกาฯ ได้อ่านคำพิพากษาลับหลังตัดสินจำคุกนายทักษิณเป็นเวลา 2 เดือนไม่รอลงอาญา ส่วนคุณหญิงพจมาน ถูกยกฟ้อง ปัจจุบัน นายทักษิณอาศัยอยู่ในนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไม่เคยเดินทางกลับมายังประเทศไทยอีกเลยนับจากนั้น แต่ปรากฎภายนายทักษิณเดินทางไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก และเคลื่อนไหวผ่านทวิตเตอร์และอินสตาแกรมส่วนตัวเป็นระยะ

การส่งผู้ร้ายข้ามแดน เป็นความร่วมมือตามประมวลกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีอาญา เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม โดยจัดส่งผู้ที่กระทำความผิดหรือถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดและหลบหนีไปยังประเทศอื่น คืนไปยังประเทศที่ความผิดเกิดขึ้น จะต้องเป็นการร้องขอโดยผ่านพิธีการทางการทูต ประเทศที่ไทยมีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับ 16 ประเทศ คือ 1.สหรัฐอเมริกา 2.สหราชอาณาจักรและไอแลนด์เหนือ 3.แคนาดา 4.เบลเยี่ยม 5.จีน 6.เกาหลีใต้ 7.อินโดนีเซีย 8.ออสเตรเลีย 9.ฟิลิปปินส์ 10.กัมพูชา 11.ฮ่องกง 12.ลาว 13.บังคลาเทศ 14.ฟิจิ 15.มาเลเซีย และ 16.อินเดีย

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง