อัยการรับฟ้องคดีหลานสาวพลทหารฐานหมิ่นนายทหาร
2016.10.05
กรุงเทพฯ

ในวันพุธ (5 ตุลาคม 2559) นี้ นางสาวนริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ หลานสาวของพลทหารวิเชียร เผือกสม ซึ่งเสียชีวิตในระหว่างประจำการในค่ายทหาร ปี 2554 ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เพื่อให้การเพิ่มเติม ก่อนปฎิเสธข้อกล่าวหาหมิ่นประมาท และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ)
ในคดีที่พันตรีภูริ เพิกโสภณ ได้แจ้งความดำเนินคดี น.ส.นริศราวัลถ์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 โดยพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนฟ้องต่ออัยการจังหวัดนราธิวาสแล้ว และ น.ส.นริศราวัลถ์ได้ยื่นขอประกันตัวเองก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในวันเดียวกัน
น.ส.นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ ข้าราชการกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์ว่า เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสตามคำเชิญของพนักงานสอบสวน และต่อจากนั้นได้เดินทางไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดนราธิวาส เพื่อยื่นขอประกันตัว
“พนักงานสอบสวนเป็นคนติดต่อมาให้เราไปให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีที่เราเป็นผู้ต้องหาในสองประเด็น ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้เฟซบุ๊ค ผู้กล่าวหาก็คือพันตรีภูริ เราให้สอบปากคำโดยหนังสือ” น.ส.นริศราวัลถ์กล่าว
พันตรีภูริ เพิกโสภณ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทต่อ น.ส.นริศราวัลถ์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 หลังจากที่ น.ส.นริศราวัลถ์ ได้โพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียในลักษณะที่ว่า มีทหารหลายรายเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของพลทหารวิเชียร เผือกสม ในระหว่างประจำการที่ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในจังหวัดนราธิวาส ในปี พ.ศ. 2554 แต่บางราย ไม่ถูกสั่งพักราชการ ถือเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่
น.ส.ณัฐาศิริ เบิร์กแมน ทนายความของ น.ส.นริศราวัลถ์ เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ว่า น.ส.นริศราวัลถ์ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาได้ปฎิเสธข้อกล่าวหาหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และได้ยื่นขอประกันตัวและได้รับประกันตัวแล้ว
“เราก็ไปให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือแล้วก็ยื่นเอกสารเพิ่ม เป็นเอกสารถึงความเกี่ยวพันของคุณเมย์(น.ส.นริศราวัลถ์) เรื่องเกี่ยวกับพลทหารวิเชียร เรื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เขาอ้างว่าเราทำความผิด ซึ่งยืนยันว่าเราไม่ได้ทำความผิด ยืนยันปฎิเสธไปทุกข้อกล่าวหา” น.ส.ณัฐาศิริกล่าว
“พนักงานตำรวจก็รับการให้การของเราไว้ แล้วก็รับเอกสารทุกอย่างไว้ สำนวนก็ส่งตัวไปให้อัยการวันนี้เลย แล้ววันนี้ที่อัยการจังหวัดเราก็ทำเรื่องขอประกันตัวในชั้นอัยการ แล้วอัยการก็นัดรายงานตัวในวันที่ 27 ตุลาคม 2559” ทนายความระบุ
น.ส.ณัฐาศิริเพิ่มเติมว่า น.ส.นริศราวัลถ์ได้ยื่นขอประกันตัวโดยใช้ตำแหน่งทางราชการของตนเองเป็นหลักประกัน ถือเป็นวงเงินประกันตัวจำนวนหนึ่งแสนบาท โดยขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้หลังจากนี้ น.ส.นริศราวัลถ์ และทนายความจะได้รวบรวมเอกสารเพื่อต่อสู้คดี เพราะเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ น.ส.นริศราวัลถ์ได้กระทำไปนั้นเป็นการกระทำที่ไม่ผิดกฎหมาย
ด้าน พ.ต.ท.สมภาร ชะพินใจ พนักงานสอบสวนสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสกล่าวต่อเบนาร์นิวส์ว่า ได้รับเอกสารหลักฐานของ น.ส.นริศราวัลถ์ไว้ทั้งหมด และได้ส่งสำนวนคดีให้อัยการแล้ว
“ส่งตัวไปให้อัยการวันนี้ ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร และนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์มี 2 ข้อหา ซึ่งเขาปฎิเสธ ขั้นตอนคือ ส่งให้อัยการแล้ว เหลือแต่ขั้นตอนที่อัยการจะดำเนินการ จะสั่งให้พนักงานสอบสวน สอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ” พ.ต.ท.สมภาร กล่าวทางโทรศัพท์
ยกเลิกคำสั่งไม่พักราชการผู้บังคับบัญชาพลทหารวิเชียร เผือกสม
ในวันเดียวกัน น.ส.นริศราวัลถ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีการสอบสวนหาผู้กระทำผิดเกี่ยวกับกรณีของพลทหารวิเชียร เผือกสม ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกทำโทษในค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในจังหวัดนราธิวาส เมื่อปี 2554 โดยระบุว่า ปัจจุบัน ได้มีการยกเลิกคำสั่งไม่พักราชการพันตรีภูริ เพิกโสภณ ผู้บังคับบัญชาของพลทหารวิเชียร และได้มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาคำสั่งดังกล่าวใหม่แล้ว
“ได้มีการยกเลิกคำสั่งเดิมที่บอกว่า ไม่มีการสั่งพักราชการไป แล้วก็ตั้งกรรมการสอบใหม่ เพื่อที่จะพิจารณาว่าควรจะพักราชการหรือไม่ ปัจจุบัน อยู่ในขั้นตอนการรอหนังสือชี้มูลความผิดจาก ป.ป.ท. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ) ซึ่งเรายื่นหนังสือขอให้เขาเร็วที่สุด” น.ส.นริศราวัลถ์กล่าว
แต่เดิมการสอบสวนทางวินัยในกรณีการเสียชีวิตของพลทหารวิเชียร กองทัพภาคที่ 4 ที่เชื่อว่าถูกทำโทษจนเสียชีวิต ได้มีคำสั่งให้พักราชการเจ้าหน้าที่ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีนี้ทั้งสิ้น 9 นาย และสั่งไม่พักราชการ 1 นาย คือพันตรีภูริ เพิกโสภณ ซึ่ง น.ส.นริศราวัลถ์ เชื่อว่าคำสั่งไม่พักราชการดังกล่าวไม่เป็นธรรม และอาจส่งผลกระทบต่อการสืบสวนหาผู้กระทำผิด จึงได้ยื่นหนังสือให้กระทรวงกลาโหมพิจารณากรณีดังกล่าวใหม่ ซึ่งล่าสุดได้มีการยกเลิกคำสั่งไม่พักราชการดังกล่าว และตั้งกรรมการพิจารณาเรื่องนี้ใหม่แล้ว
สำหรับความคืบหน้าในคดีอาญาเกี่ยวกับเสียชีวิตของพลทหารวิเชียรนั้น น.ส.นริศราวัลถ์ ได้ส่งหนังสือให้อัยการสูงสุดพิจารณาคดีให้เข้าข่ายมาตรา 289 การฆ่าผู้อื่นโดยการทรมาน หรือโดยทารุณโหดร้ายด้วย เพิ่มเติมจากแต่เดิมที่อัยการสั่งฟ้องเพียงมาตรา 290 ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี แต่ถ้ามีลักษณะประการหนึ่งประการใด ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 289 ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามปีถึงยี่สิบปี