อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ถูกจับสึก-ฝากขัง
2018.05.30
กรุงเทพ

พระพรหมสิทธิ หรือพระธงชัย สุขโข เจ้าอาวาสวัดสระเกศวรมหาวิหาร ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม โดยได้ถูกจับสึกและถูกฝากขังเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันพุธนี้ หลังจากที่หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจค้นวัดสระเกศฯ ไปได้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
โดยในช่วงเช้าของวันพุธนี้ พระธงชัย สุขโข ได้ติดต่อและเดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานยักยอกและปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตต่อเงินอุดหนุนโครงการศูนย์กลางเผยแพร่พระพุทธศาสนา และโครงการของสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงฯ ของวัดสระเกศฯ รวม 63,700,000 บาท ซึ่งในวันนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้แถลงว่า กำลังเร่งตรวจสอบการทุจริตเหล่านี้อยู่ เพื่อส่งมอบให้ตำรวจไว้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพระธงชัย นานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนที่ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบฯ จะนิมนต์อดีตเจ้าอาวาสไปขอฝากขังที่ศาลอาญาฯ และคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ระบุว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ขณะที่ทนายความเตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว
“ผู้ต้องหาร่วมกับ นายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กับพวก ซึ่งเป็นฆราวาสและพระ ในการโอนเงินและซุกซ่อนเงินที่ได้จากการกระทำด้วยการโอนเงินที่ได้เบิกถอนจากบัญชีเงินฝากทั้ง 2 โครงการ จากธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด สาขาวงเวียนโอเดียน ใน 2 บัญชี จำนวนรวม 32 ครั้ง ให้แก่กลุ่มฆราวาสที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องไปโดยทุจริต” คำร้องฝากขังระบุ
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวพระธงชัย สุขโข ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ได้ทำการสึกแล้วคุมตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทันที
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้แนบคำร้องคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา ระบุว่า ผู้ต้องหามีเอกสารจำนวนมากในครอบครอง เกรงว่าอาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน รวมทั้งพฤติการณ์ของผู้ต้องหามีการทำเป็นกระบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ และมีอัตราโทษสูงเกรงว่าจะเปิดช่องให้หลบหนี
“การสอบสวนยังไม่สิ้นสุด ยังมีเหตุจำเป็นต้องสอบปากคำพยานอีก 20 ปาก ที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินและการกระทำผิดของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งเป็นพระวัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ราชบุรี ขอนแก่น และนครศรีธรรมราช ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว” พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร หนูทอง ในฐานะพนักงานสอบสวน แถลงต่อศาล
พระพรหมสิทธิ เป็นหนึ่งพระรูปที่หก ในจำนวนพระเถระในวัดที่กรุงเทพฯ 7 รูป ที่ถูกออกหมายจับในคดียักยอกทรัพย์หรือฟอกเงิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ยกกำลังไปตรวจค้นวัดเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว โดยในวันนั้น สามารถจับกุมพระเถระ และจับสึก-ฝากขัง ได้รวม 5 รูป จากวัดสำคัญ 3 แห่ง คือ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดสามพระยาวรวิหาร วัดสัมพันธวงศาราม ในกรุงเทพ ถึงปัจจุบันนี้ ยังมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ที่ยังหลบหนีอยู่อีกหนึ่งราย
จากปฏิบัติการค้นวัดสระเกศในวันพฤหัสบดีที่แล้ว เจ้าหน้าที่พบหลักฐานเป็นบัญชีเงินฝากส่วนตัวจำนวน 132 ล้านบาท และเงินหมุนเวียนภายในวัดอีกกว่า 80 ล้านบาท ที่เชื่อมโยงกับคดีทุจริตเงินทอนวัด
ในวันเดียวกันนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ บดินเทพยวรางกูร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ถอดถอนสมณศักดิ์พระภิกษุที่ต้องคดีทุจริตทั้ง 7 รูป อีกด้วย