อานดี้ ฮอลล์ นักสิทธิแรงงานเดินทางออกจากประเทศไทยหลังถูกฟ้องคดีเพิ่ม

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2016.11.07
กรุงเทพฯ
161107-TH-labor-hall-620.jpg นายอานดี้ ฮอลล์ เดินทางมาถึงศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อฟังคำพิพากษาคดีหมิ่นเนเชอรัลฟรุต เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2559
เบนาร์นิวส์

ในวันจันทร์ (7 พ.ย. 2559) นายอานดี้ ฮอลล์ นักสิทธิแรงงานข้ามชาติชาวอังกฤษ ออกแถลงการณ์ว่า เขาได้ตัดสินใจเดินทางออกจากประเทศไทย หลังจากช่วงที่ผ่านมาได้รับแรงกดดันและถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากบริษัทเอกชนไทย เพราะทำหน้าที่ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติที่ถูกเอาเปรียบ

ในหลังเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ นายอานดี้ ฮอลล์ นักสิทธิแรงงานข้ามชาติซึ่งทำงานในประเทศไทยยาวนานกว่า 11 ปี ส่งหนังสือแถลงการณ์ถึงสื่อมวลชนและโพสต์ข้อความผ่านระบบสังคมออนไลน์ เพื่ออธิบายเหตุผลที่เขาได้ตัดสินใจเดินทางออกจากประเทศไทยอย่างไม่มีกำหนดกลับ ล่าสุด นายอานดี้ ได้กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ ว่า เขาได้เดินทางถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสแล้ว

“ผมได้หารือกับเพื่อนร่วมงานและทีมทนายความ ในเรื่องที่ผมจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยโดยไม่มีกำหนดกลับ และสุดท้ายผมได้ตัดสินใจเดินทางออกนอกประเทศไทย ในวันนี้ (จันทร์) ตามที่ผมเตรียมการและตั้งใจไว้ ผมคิดว่าเพื่อให้สถานการณ์ลดความตึงเครียดลง” นายอานดี้ ระบุ

ขณะที่ทำงานในประเทศไทย นายอานดี้ ได้ทำหน้าที่เป็นปรึกษาส่วนตัวและที่ปรึกษานานาชาติให้กับเครือข่ายเพื่อสิทธิแรงงานข้ามชาติ (Migrant Workers Rights Network-MWRN) และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ โดยยังได้ทำงานเกี่ยวกับการปกป้องสิทธิแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมา ลาว และกัมพูชาในประเทศไทย จนที่ผ่านมาถูกบริษัทเอกชนของไทยดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาททั้งความผิดทางอาญา และทางแพ่ง

ในเหตุการณ์ล่าสุด อานดี้ ฮอลล์ ได้ร่วมทำงานกับเครือข่ายเพื่อสิทธิแรงงานข้ามชาติให้ความช่วยเหลือแรงงานจากประเทศพม่า 14 ราย ที่ได้กล่าวหาบริษัท ธรรมเกษตร ว่าได้ใช้แรงงานอย่างอย่างทารุณ และฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทฯ แต่ถูกทางบริษัทฯ ฟ้องกลับ

“ผมได้ฟ้องร้องทุกคนที่เอาความเท็จมากล่าวอ้างทำให้ธุรกิจผมได้รับความเสียหาย ในหลายคดี ในหลายพื้นที่ รวมทั้งนายอานดี้ ฮอลล์ อาจจะมีถึง 20 คน” นายชาญชัย เพิ่มผล เจ้าของบริษัทธรรมเกษตร ซึ่งส่งผลิตภัณฑ์ขายให้กับกลุ่มเบทาโกร กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์ในวันจันทร์นี้

“วันที่ศาลแรงงานไกล่เกลี่ย ได้จดบันทึกในการไต่สวนว่าแรงงานสองในสิบสี่คน ยอมรับว่าไม่ได้มีการทารุณกรรมหรือใช้งานเยี่ยงทาส ถามข้อกล่าวหาทั้งห้าข้อ” นายชาญชัยกล่าว และเพิ่มเติมว่า “ผมอยากให้เขากลับมาสู้คดี ถ้าเขาผิด เขาแพ้ ถ้าผมผิด ผมแพ้ ประเทศไทยใช้กฎหมายเดียว”

นายอานดี้ ซึ่งได้เดินทางถึงกรุงปารีส กล่าวแย้งว่า ตนเอง เพื่อนร่วมงาน หรือคนอื่นๆ ไม่ได้กล่าวหาว่าทางฟาร์มกระทำทารุณกรรมหรือมีการค้ามนุษย์ แต่เขาเป็นเหยื่อของแรงงานที่ถูกบังคับ

“ในทุกแง่มุมของชีวิตของแรงงานเหล่านี้ ถูกควบคุมโดยนายจ้างที่ไม่เคยตระหนักและยังไม่ตระหนักว่า เป็นการกระทำที่ไม่มีมนุษยธรรม” นายอานดี้ กล่าว

คดีความเดิม

ในวันที่ 20 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้พิพากษาว่า นายอานดี้ มีความผิดจริงในคดีที่บริษัท เนเชอรัลฟรุต ผู้ผลิตผลไม้กระป๋องในจังหวัดประจวบคีรีขันต์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยความผิดดังกล่าวเกิดจากการที่นายอานดี้เป็นผู้ร่วมทำงานวิจัยเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิแรงงานในโรงงานผลิตสัปปะรดกระป๋อง ซึ่งต่อมารายงานการวิจัยชิ้นดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยองค์การฟินน์วอทช์ของประเทศฟินแลนด์ในปี 2556 ทำให้บริษัท เนเชอรัลฟรุต ได้รับความเสื่อมเสีย

ศาลอาญากรุงเทพใต้ จึงมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกนายอานดี้เป็นเวลา 4 ปี แต่ลดโทษลงเหลือ 3 ปี และให้รอการลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี เนื่องจากเห็นว่าที่ผ่านมานายอานดี้ได้ทำหน้าที่นักสิทธิซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสังคม อย่างไรก็ตามนายอานดี้ต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 150,000 บาทด้วย

สำหรับอีกคดีหนึ่ง ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาซึ่งอัยการและบริษัท เนเชอรัลฟรุต เป็นโจทก์ยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทกับนายอานดี้จากการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีราในประเทศเมียนมาพาดพิงถึงบริษัท เมื่อปี 2556 ซึ่งศาลเห็นว่า ในคดีนี้อัยการไม่มีอำนาจในการฟ้องเนื่องจากการให้สัมภาษณ์ของนายอานดี้เกิดนอกราชอาญาจักรไทย

หน้าที่ที่มีเดิมพันสูง

“จากการที่ผมได้ทุ่มเททำงานปกป้องสิทธิมนุษยชนมามากกว่า 11 ปี เพื่อมุ่งหวังให้ชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานข้ามชาติในประเทศไทยสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยได้รับสิทธิแรงงานและสิทธิอื่นตามกฎหมายไทยอย่างครบถ้วน แต่ในความเป็นจริงกลับมิได้เป็นเช่นนั้น เพราะในการทำงานเรื่องดังกล่าวนี้ ยังมีอุปสรรคอยู่อีกมากโดยเฉพาะเมื่อมีปัญหากับผู้ประกอบการ” นายอานดี้ กล่าวผ่านแถลงการณ์

ด้านนายสมศักดิ์ โตรักษา ทนายความของบริษัทเนเชอรัลฟรุต กล่าวต่อเบนาร์นิวส์ผ่านทางโทรศัพท์ว่า ไม่ขอวิพากษ์-วิจารณ์การเดินทางของนายอานดี้

“คดีอาญาในขณะนี้ ออกคำพิพากษาไปแล้วส่วนหนึ่ง เขาก็อยู่ในระหว่างรอการใช้สิทธิอุทธรณ์ของเขาไป ส่วนคดีอาญาว่ายังไง คดีแพ่งว่ายังไง เราก็จะมีวิธิการของเรา” นายสมศักดิ์ระบุ อย่างไรก็ตามนายสมศักดิ์ เคยกล่าวต่อเบนาร์นิวส์ว่า จะได้ดำเนินการฟ้องทางแพ่งต่อนายอานดี้ในวันจันทร์นี้ด้วยเช่นกัน

ทางด้านนายศิรา โอสถธรรม ทนายความของนายอานดี้ กล่าวต่อเบนาร์นิวส์ว่า ในเบื้องต้นการเดินทางออกนอกประเทศไทยของนายอานดี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินคดีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากคดีแพ่งของนายอานดี้ที่เหลืออยู่นั้น นายอานดี้ได้แต่งตั้งทนายความไว้ต่อสู้คดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง