ตำรวจจับกุมตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ฐานซ้อมผู้ต้องหาเสียชีวิตได้แล้ว 5 นาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร่วมสืบสวนสอบสวนคดีก๊วนตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ทรมานผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดรายหนึ่งจนเสียชีวิต เปิดเผยในวันพุธนี้ว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวตำรวจที่ก่อเหตุได้แล้ว 5 นาย แต่ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ และลูกน้องอีกนายยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี

ทั้งนี้ ในตอนเช้าวันนี้ พล.ต.อ. วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้รับผิดชอบกรณีที่ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ และลูกน้อง ได้ใช้ถุงคลุมศีรษะและทรมานผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายหนึ่งจนเสียชีวิตเมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี้ ได้เดินทางลงพื้นที่สถานีตำรวจภูธร เมืองนครสวรรค์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานมาดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำความผิด

พล.ต.อ. วิสนุ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวานนี้ ทีมงานตำรวจนครสวรรค์ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ หรือผู้กำกับโจ้ ที่ได้ละเมิดกฎหมาย

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงแล้วให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อที่จะไม่ยุ่งเหยิงกับคดี โดยออกหมาย 7 คน” พล.ต.อ. วิสนุ กล่าวและระบุว่า ยังหาตัว พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ไม่เจอ และติดต่อไม่ได้

ด้าน พล.ต.ต. ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนครสวรรค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ขอศาลอนุมัติหมายจับตำรวจชุดจับกุมยาเสพติดที่ก่อคดีขึ้น 7 นาย จากจำนวน 13 นาย เฉพาะคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัย

“หลักฐานถึงตรงไหนต้องดำเนินคดีกับทุกราย ตอนนี้ ยืนยันที่ 4 คน (ที่ถูกจับ) อยู่ในการสอบปากคำ” พล.ต.ต. ระพีพงษ์ กล่าว

จากนั้นในตอนค่ำของวันพุธนี้ ดต. วิสุทธิ์ บุญเขียว หนึ่งในผู้ถูกหมายจับ ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์

พล.ต.ต. ระพีพงษ์ เปิดเผยเบื้องต้นว่า ผู้ต้องหา 7 ราย ที่ถูกออกหมายจับ คือ 1. พ.ต.อ. ธิติสรรค์  2. ร.ต.ท. ธรณินทร์ มาศวรรณา โดยทั้งคู่ยังคงหลบหนีอยู่ ส่วนรายอื่น มีดังนี้ 3. พ.ต.ต. รวีโรจน์ ดิษทอง 4. ร.ต.อ. ทรงยศ คล้ายนาค 5. ดต. วิสุทธิ์ บุญเขียว 6. ดต. ศุภากร นิ่มชื่น และ 7. ส.ต.ต. ปวีกรณ์ คำมาเร็ว ถูกควบคุมตัวได้แล้ว ทั้งหมดถูกตั้งข้อหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นฯ และ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน ซึ่งมีอายุความ 20 ปี

ค้นบ้านหรู ผกก.โจ้

ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันพุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าไปตรวจค้นบ้านพักของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ในย่านรามอินทรา กรุงเทพฯ แต่ไม่พบตัว พ.ต.อ. ธิติสรรค์ พบเพียงผู้ดูแลบ้าน 2 ราย ที่ดูแลบ้านพักที่มีพื้นประมาณ 4 ไร่ พร้อมด้วยรถยนต์หรู 13 คัน

ในช่วงบ่าย พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ระบุว่า ยังไม่พบร่องรอยของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ และได้เฝ้าระวังการหลบออกนอกประเทศ

“ตอนนี้ก็จัดการชายแดนทั้งหมด ทั้งพื้นที่ ตชด. สตม. ทั้งประสานประเทศเพื่อนบ้านด้วย ก็ดูทุกช่องทาง แม้ว่าจะอยู่เมืองไทย อยู่เมืองไหนก็ไปตามจับ ทำทุกอย่าง ต้องเอาตัวให้ได้” พล.ต.อ. สุวัฒน์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น.ส. รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานกำจัดเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมเลวร้าย ทุจริตในหน้าที่ การกระทำใด ๆ ที่มีผลกระทบต่อสังคมและประชาชนออกไปจากหน่วยงาน เพื่อไม่ให้บุคคลนั้นมีโอกาสเติบโตใช้ตำแหน่งหน้าที่สร้างความเสียหายต่อส่วนรวม

โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ชี้แจง ใบมรณบัตรยังไม่ใช่ผลการชันสูตรพลิกศพชั้นสุดท้าย

การเปิดโปงเหตุการณ์ซ้อมทรมาน เริ่มมาจากเฟซบุ๊กเพจ “ทนายคลายทุกข์” ที่ได้เปิดเผยในวันที่ 22 สิงหาคม 2564 ว่า ได้รับการร้องเรียนจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อยว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ได้จับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติด 2 ราย และตำรวจได้ซ้อมทรมาน นายจิระพงศ์ หนึ่งในผู้ต้องหา เพื่อเรียกรับเงิน 2 ล้านบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี แต่นายจิระพงศ์ ได้เสียชีวิตจากการถูกทรมานเสียก่อน

ในวันพุธนี้ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ได้ชี้แจงว่า นายจิระพงศ์ ถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ มายังโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ในวันที่ 5 สิงหาคม 2564 เวลา 19:20 น. ทราบประวัติว่า ผู้เสียชีวิตวิ่งหนีตำรวจขณะจับยาเสพติดแล้วล้มลงหมดสติ ไม่รู้สึกตัวขณะอยู่ในโรงพยาบาล ต่อมาโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ได้ผ่าศพพิสูจน์ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2564 และกำลังรอผลตรวจระดับสารเมทแอมเฟตามีนในเลือด และผลการชันสูตรพลิกศพ เพื่อนำมาสรุปในรายงานชันสูตรฉบับสมบูรณ์ที่จะออกในสัปดาห์หน้า

โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า หนังสือรับรองการตาย ซึ่งถูกเผยแพร่เมื่อวานนี้นั้น แพทย์ออกให้หลังการผ่าพิสูจน์ทันที เพื่อให้ญาติไปทำมรณบัตร เป็นเพียงข้อมูลขั้นต้นที่อาจจะเหมือนหรือแตกต่างจากรายงานการชันสูตรพลิกศพที่มีในภายหลัง

นายซาไล บาวี นักวิชาการสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสดงความคิดเห็นว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องปฏิรูปตนเอง เพราะเป็นที่ชัดเจนว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจในทางที่ผิด โดยเฉพาะตำรวจที่มียศสูง ๆ

“ขณะเดียวกัน น่าเป็นห่วงตำรวจชั้นผู้น้อย ซึ่งไม่แน่ใจว่าหลังจากที่คลิปวิดีโอถูกทนายนำไปเผยแพร่นั้น จะเกิดอะไรตามมากับชีวิตเขาบ้าง ตำรวจจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องคุ้มครองตำรวจชั้นผู้น้อยที่แจ้งเบาะแส และมุ่งหน้าสู่การปฏิรูปโครงสร้างตำรวจทั้งหมด” นายซาไล กล่าวกับเบนาร์นิวส์ผ่านโทรศัพท์

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช ในกรุงเทพฯ และคุณวุฒิ บุญฤกษ์ ในเชียงใหม่ ร่วมรายงาน