รัฐบาลเศรษฐาพร้อมจัดการมาเฟีย หลังเหตุตำรวจตายที่บ้านกำนันนก

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันอังคารนี้ว่า รัฐบาลพร้อมจัดการผู้มีอิทธิพลและมาเฟียไม่ให้มีอิทธิพลเหนือองค์กรตำรวจอย่างเด็ดขาด เพราะรับไม่ได้กับเหตุคนร้ายยิง พ.ต.ต. ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์เสียชีวิต ที่บ้านของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ที่เป็นข่าวสะเทือนขวัญประชาชนทั้งประเทศ

ด้าน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า ปัจจุบันได้ออกหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิง พ.ต.ต. ศิวกร เสียชีวิต แล้ว 11 คน โดยเป็นตำรวจ 6 นาย และพลเรือน 5 คน

นายเศรษฐา กล่าวกับสื่อมวลชนที่อาคารรัฐสภา ในช่วงเช้าของวันอังคารนี้ว่า รัฐบาลพร้อมใช้อำนาจที่มีจัดการกับผู้มีอิทธิพลอย่างเต็มที่

“เรื่องอิทธิพลของกลุ่มทุน หรือว่า มาเฟีย หรือผู้มีอิทธิพลอันนี้เราไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนให้ความกังวลอย่างมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ และเป็นสิ่งที่เราจะต้องไม่ยอมรับต่อไป จะไม่ให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นอีก” นายเศรษฐา กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่รัฐสภา ในวันที่สองของการแถลงนโยบายรัฐบาล

“แล้วก็จะบริหารจัดการอย่างถูกต้องเด็ดขาด และให้ความเป็นธรรมกับทุก ๆ ฝ่าย เข้าใจว่าตั้งแต่ข้างบนยันข้างล่างเนี่ยส่วนไหนมีปัญหาก็ต้องบริหารจัดการกันไป รับรองได้ ถ้าเจอเรื่องทุจริต ประพฤติมิชอบจะจัดการทันที” นายเศรษฐา กล่าวเพิ่มเติม

กรณีที่เกิดขึ้น สืบเนื่องจากในเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 6 กันยายน เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต. ศิวกร สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.) เสียชีวิต ในบ้านของนายประวีณ ใน ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม และตำรวจอีก 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุมีตำรวจบางนายนำตัวผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล ตำรวจบางนายพา นายประวีณ หลบหนี และมีผู้ที่ร่วมทำลายหลักฐานโดยนำปืนที่ใช้ก่อเหตุไปซ่อน และทำลายกล้องวงจรปิด

ต่อมาทราบว่า มือปืนที่ยิงสารวัตรแบงค์ คือ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา ลูกน้องคนสนิทของกำนันนก ตำรวจได้ออกหมายจับ และเริ่มปฏิบัติการตามล่าตัว และในเช้าตรู่ของวันที่ 8 กันยายน ตำรวจได้ทำการวิสามัญฆาตกรรมนายธนัญชัย โดยอ้างว่าเป็นเพราะขัดขืนการจับกุม

ด้านนายประวีณ เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในที่ 7 กันยายน วันรุ่งขึ้นหลังเหตุการณ์ โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้สั่งการให้หน่องยิงสารวัตรแบงค์ และนายประวีณไม่ขอประกันตัว

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ เจ้าหน้าที่พบศพ พ.ต.อ. วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผกก.เบิ้ม ผู้กำกับ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ในบ้านพักส่วนตัว โดย พ.ต.อ. วชิรา คือ ผู้บังคับบัญชาซึ่งโทรศัพท์ชวน พ.ต.ต. ศิวกร ไปบ้านกำนันนกในวันเกิดเหตุ ซึ่ง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ระบุว่าคาดว่า พ.ต.อ. วชิรา อาจจะฆ่าตัวตายเพราะความเครียด

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบวัตถุพยาน และภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ รวมถึงสอบสวนผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งตำรวจและพลเรือน โดยเชื่อว่าจะสามารถสรุปคดีเบื้องต้นได้ในสุดสัปดาห์

“ออกหมายจับตำรวจไป 6 นาย แจ้งข้อกล่าวหาไปเพิ่มอีก 5 คนในส่วนของพลเรือน เป็นลูกน้องกำนันนก เป็นพัสดี เอาเซอร์ฟเวอร์ไปทิ้งน้ำ เอาปืนไปฝังดิน และลูกน้องอีกส่วน ที่ร่วมกันทำลายหลักฐานเก็บกวาดที่เกิดเหตุ กำลังสอบพยานเพิ่มเติมอยู่ สรุปจบชัดเจนแล้วว่า มีตำรวจทั้งหมด 28 นาย มีพลเรือนทั้งหมด 27 นาย” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าว

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ระบุว่า จะมีการสืบสวนเส้นทางการเงิน และความมั่งคั่งของกำนันนกด้วย ซึ่งหากพบการทุจริตก็จะดำเนินคดี แต่รายละเอียดของคดี ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

“ตำรวจทุกนายยังไม่ได้ให้การตามความเป็นจริง วันนี้ ตำรวจต้องรักตำรวจ ลูกน้องถูกยิงตาย แต่ผู้บังคับบัญชากลับไม่ให้ความจริง แถมมิหนำซ้ำยังไปปกป้องคนร้ายอีก มันก็แย่เต็มที ตำรวจตาย 1 ยิงตัวตายไป 1 ถามว่าสาเหตุมันเกิดจากเรื่องอะไร ก็เกิดจากเรื่องไปเป็นไม้ค้ำยันให้บุคคลเหล่านี้ นอกจากไม่ช่วยตำรวจไม่พอ ยังพาคนร้ายหนี อันนี้ก็ถือว่าไม่ไหว” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติม

ก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยว่า กำนันนก เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่จังหวัดนครปฐม มีการจัดงานเลี้ยงโดยเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงข้าราชการไปร่วมเป็นประจำทุกเดือน ทำให้หลังเกิดเหตุมีเสียงวิพากษ์-วิจารณ์ในสังคมว่า ตำรวจที่ไปร่วมงานเลี้ยงมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทั้งตั้งข้อสันนิษฐานว่าการไปร่วมงานเลี้ยงอาจเปิดโอกาสให้ตำรวจสามารถรับสินบนได้

นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของจังหวัดนครปฐม โดยบริษัทก่อสร้างดังกล่าวได้รับงานประมูลก่อสร้างมากที่สุดในสายนักการเมือง นับตั้งแต่ปี 2561-2565 มีรายได้รวมถึง 4.5 พันล้านบาท

เมื่อสัปดาห์ก่อน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินการขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพลในแต่ละจังหวัด เพื่อปราบปรามการใช้อิทธิพล หรืออำนาจนอกกฎหมาย

โดยในวันอังคารนี้ นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง มีหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เรื่อง มาตรการควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของกำนันผู้ใหญ่บ้าน และสั่งลงโทษทางวินัยหากพบการกระทำผิด โดยให้ลงโทษตั้งแต่การตัดเงินเดือนไปจนถึงการไล่ออกจากตำแหน่ง