“อังคณา” หวังเจ้าหน้าที่เร่งหาตัวคนคุกคาม

ปรับปรุงข้อมูล 2022-04-15 EST 1:10 PM

นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชน เปิดเผยกับเบนาร์นิวส์ในวันพุธนี้ว่า ตนเองหวังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาตัวบุคคลที่ใช้กรรไกรปาใส่ประตูรั้วบ้านของตนเองเมื่อวันอังคาร ด้านฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับกรณีการคุกคามนักสิทธิมนุษยชนครั้งนี้

กรณีนี้ สืบเนื่องจากในวันอังคารที่ผ่านมา นางอังคณา เปิดเผยบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เมื่อเวลา 05.52 น. ของวันอังคาร มีบุคคลคนหนี่งใช้กรรไกรยาว 9 นิ้ว ปาใส่ประตูเหล็กหน้าบ้าน ซึ่งส่งผลให้ประตู และรถยนต์ส่วนตัวซึ่งจอดอยู่หน้าบ้านเกิดความเสียหาย

นางอังคณา กล่าวกับเบนาร์นิวส์ผ่านโทรศัพท์ว่า หลังเกิดเหตุในวันอังคารตนเองได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน.บางยี่เรือ และมอบของกลางเป็นกรรไกรขนาด 9 นิ้วสีเขียวเป็นหลักฐานเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนค้นหาตัวผู้ก่อเหตุต่อไป

“เราไปแจ้งความ ผู้กำกับ (ตำรวจ) ก็บอกว่า ไล่ดูกล้องวงจรปิดแล้ว แต่ยังไม่พบอะไร แล้วก็บอกว่า มีคนให้เบาะแสว่า เป็นคนที่เดินเตร็ดเตร่แถววงเวียนใหญ่ แต่คนแถวบ้านก็ไม่มีใครเคยเห็นคนนี้มาก่อน ผู้กำกับบอกว่า ถ้าได้ตัวเขาจะให้เราเข้าไปชี้ตัวอีกที เราเชื่อว่าคนที่ทำไม่น่าจะใช่คนวิกลจริต เพราะเขาอำพรางตัวเองมาอย่างดี ใส่หมวก ใส่แว่น ใส่แมสก์ และเดินตรงเข้ามาที่บ้านหลังนี้”​ นางอังคณา กล่าว

เบนาร์นิวส์ พยายามติดต่อไปยังสน.บางยี่เรือ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถติดต่อได้

ในวันเดียวกัน ฮิวแมนไรท์วอทช์ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุ และปกป้องนักสิทธิมนุษยชน

“ความรุนแรงที่เกิดกับบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น อังคณา นอกจากเป็นการคุกคามอังคณาและครอบครัวแล้ว ยังเป็นการสร้างความหวาดกลัวให้กับบรรดานักสิทธิมนุษยชนด้วย รัฐบาลไทยควรที่จะต้องเร่งดำเนินการสืบสวน… รัฐบาลไม่ควรนิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอังคณา รัฐบาลของประเทศอื่นเองก็ควรกดดันให้รัฐบาลไทยปกป้องอังคณา และนักปกป้องสิทธิคนอื่นในประเทศไทยอย่างเร่งด่วน” น.ส. เอเลน เพียร์สัน รักษาการผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์เอเชีย กล่าว

ทั้งนี้ นางอังคณา นักสิทธิมนุษยชน ได้เคลื่อนไหวเรื่องการป้องกันการบังคับสูญหาย และการละเมิดสิทธิในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เธอเป็นภรรยาของนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความสิทธิมนุษยชน ซึ่งถูกลักพาตัวและกลายเป็นบุคคลสูญหาย เมื่อปี 2547 ขณะรับเป็นทนายความให้แก่ผู้ต้องหาความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้

นางอังคณา เคยดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เคยได้รับรางวัลกวางจูเพื่อสิทธิมนุษยชน ในปี 2549 และรางวัลรามอน แมกไซไซ ในปี 2562 จากการทำงานด้านสิทธิมนุษยชน ปัจจุบัน เธอเป็นสมาชิกของคณะทำงานด้านการบังคับสูญหาย ของสหประชาชาติ (UN Human Rights Expert-WGEID) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ยุติการคุ้มครองนางอังคณาในฐานะพยานในคดีของนายสมชายเมื่อต้นเดือนเมษายน 2565

ทั้งนี้ ในประเทศไทยเคยเกิดกรณีที่นักวิชาการ นักเคลื่อนไหว และผู้เรียกร้องสิทธิ-ประชาธิปไตย ถูกคุกคามมาแล้วหลายครั้ง เช่น ในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ซึ่งเคลื่อนไหวให้แก้ไข ม. 112 ถูกชายฉกรรจ์บุกชก จนได้รับบาดเจ็บ เดือนกุมภาพันธ์ 2557, นายสมศักดิ์ เจียมธีระสกุล อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ซึ่งมักวิพากษ์-วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านและรถยนต์ จนเกิดความเสียหาย แต่นายสมศักดิ์ไม่ได้รับบาดเจ็บ

เดือนเมษายน 2557 นายกมล ดวงผาสุก หรือ ไม้หนึ่ง ก.กุนที กวีและนักเคลื่อนไหวเสื้อแดง ถูกบุกยิงจนเสียชีวิตที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ, เดือนพฤษภาคม และมิถุนายน 2562 นายเอกชัย หงส์กังวาน และนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ถูกชายฉกรรจ์บุกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้

“หวังว่ารัฐจะให้ความใส่ใจในเรื่องนี้ เร่งติดตามหาตัวคนทำมา เพราะเขาปากรรไกรใส่ประตูเหล็กยังเป็นรู แล้วถ้ามีคนอยู่แถวนั้นจะทำยังไง อย่างกรณีปา (ระเบิด) ปิงปองบ้านนายกฯ แป๊บเดียวก็ยังจับผู้ต้องสงสัยได้ เราก็หวังว่ากรณีนี้รัฐก็จะทำเหมือนกัน ไม่ใช่เหมือนกรณีเอกชัย หงส์กังวาน หรือคนอื่น ๆ ที่ถูกทำร้าย แต่ก็จับใครไม่ได้ เราไม่อยากให้เป็นแบบนั้น” นางอังคณา กล่าวกับเบนาร์นิวส์

*ปรับปรุง บทบาทการทำงานปัจจุบันของ นางอังคณา นีละไพจิตร