ชาวตากกังวล หลังเริ่มกระบวนการส่งกลับกากแคดเมียม

รุจน์ ชื่นบาน
2024.05.09
กรุงเทพฯ
ชาวตากกังวล หลังเริ่มกระบวนการส่งกลับกากแคดเมียม เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษตรวจสอบถุงบรรจุกากแคดเมียมที่เตรียมขนย้ายกลับไปกลบฝังที่ จ.ตาก วันที่ 29 เมษายน 2567
กรมควบคุมมลพิษ

ประชาชนในพื้นที่จังหวัดตากแสดงความกังวล หลังจากรัฐเริ่มกระบวนการส่งกากแคดเมียมกลับมาฝังกลบในพื้นที่ ด้านกระทรวงอุตสาหกรรมยืนยัน การจัดเก็บปลอดภัย จะไม่ส่งผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ 

“ชาวบ้านไม่มีความมั่นใจในสวัสดิภาพความปลอดภัยต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้น และระยะยาวเลย ไม่ว่าทางหน่วยราชการจะยืนยันว่าปลอดภัยอย่างไร เพราะเรายังกังวลเรื่องบ่อกักเก็บสารแคดเมียม” นายศุโรฒ พรมทับ ชาวจังหวัดตากซึ่งอาศัยอยู่ห่างจากบ่อกักเก็บประมาณ 500 เมตรกล่าวแก่สื่อมวลชน เมื่อวันพฤหัสบดี

นางนัยนา (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ชาวบ้านใน อ.พบพระ จ.ตาก กล่าวกับเบนาร์นิวส์ ต้องการความชัดเจนของการจัดการกากแคดเมียม เพราะที่ผ่านมาเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าคือ การส่งกากทั้งหมดกลับมายังต้นทาง

“เราคาดหวังการจัดการที่ดีกว่านี้ เมื่อเช้าเราฟังข่าวบอกว่ากากแคดเมียมจากกรุงเทพฯ ถูกส่งกลับมาที่ตากหมดแล้ว คนจังหวัดอื่นฟังแล้วคงโล่งใจ แต่คนตากก็ทั้งตกใจและแปลกใจว่าส่งกลับมาทำไม ทำไมไม่หาทางกำจัด หรือหาที่อยู่ที่เฉพาะเจาะจงมากกว่านี้” นางนัยนา ระบุ

ด้าน นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สามารถขนย้ายกากแคดเมียมไปยังจังหวัดตากแล้ว 801 ตัน หรือ 528 ถุง จากกากแคดเมียมที่สามารถตรวจและยึดได้ประมาณ 1.2 หมื่นตัน 

“กระบวนการขนย้ายกากแคดเมียมดำเนินการมาแล้วอย่างต่อเนื่อง ทุกขั้นตอนสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น ไม่พบปัญหาใด โดยขนย้ายกากเข้าสู่โกดังพักคอยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรอดำเนินการในขั้นตอนฝังกลบต่อไป ซึ่งทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางยังเน้นความปลอดภัยของประชาชน และสิ่งแวดล้อม” นายณัฐพล กล่าว

“หลังจากตรวจสอบความแข็งแรงของพื้นผิวโกดังพักคอยกากแคดเมียม โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาแล้ว ปรากฏว่าชั้นดินในจุดพักคอยสามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย ไม่มีการทรุด แตกหัก หรือรั่วซึม” นายณัฐพล กล่าวเพิ่มเติม

กรณีที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจาก นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส. ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวในวันที่ 3 เมษายน 2567 ว่ามีการร้องเรียนว่าบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ตาก ขายกากแร่แคดเมียมเศษเหลือจากการทำเหมืองแร่ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งให้กับ บริษัทแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร ซึ่งอาจเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และส่งผลกระทบกับประชาชน

ในวันถัดมา นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และคณะจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานหลอมหล่ออะลูมิเนียมแท่ง บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ใน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พบกากแร่แคดเมียมจริง จึงได้สั่งการให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ และต่อมามีการพบในพื้นที่อื่น ๆ และจะต้องนำกากแร่ดังกล่าวกลับไปยังพื้นที่ฝังกลบในจังหวัดตาก 

จากการตรวจสอบ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) ระบุว่า กากแคดเมียมที่สามารถตรวจพบและยึดอายัดได้ประมาณ 12,000 ตัน จากบริษัทเอกชนหลายแห่งในพื้นที่สมุทรสาคร ชลบุรี และกรุงเทพฯ

“ปัจจุบัน ภาคประชาชน ได้ยืนคำร้องต่อศาลปกครองพิษณุโลก ในกรณีที่ชาวบ้านไม่เห็นด้วยที่จะขนย้ายกากแคดเมียมมายังอาคารพักคอย หรือโรงพักคอย ที่ไม่สมบูรณ์ ที่ยังมีหลายจุดที่ชาวบ้านกังวลอยู่ โดยศาลได้นัดไต่สวนแล้ว แต่ยังไม่กำหนดคำอ่านคำวินิจฉัย” นายศุโรฒ กล่าว

แคดเมียม เป็นโลหะหนัก มักพบปนอยู่กับแร่ธาตุอื่น ๆ เช่น แร่สังกะสี แร่ตะกั่ว หรือทองแดง และมักเป็นผลผลิตจากการทำเหมืองสังกะสี สามารถเข้าสู่ร่างกายคนได้ผ่านการกิน และการหายใจ เมื่อถูกความร้อน 

321 องศาเซลเซียส สามารถกระจายเป็นควัน เมื่อเข้าสู่ร่างกายคนจะทำให้เกิดการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย มีปวดศีรษะ กล้ามเนื้อ ปวดท้อง ปอด ไต และตับ จะถูกทำลาย สามารถทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง ระบบหายใจล้มเหลว และเป็นมะเร็งได้ 

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง