กกต. ประชาสัมพันธ์ใหญ่ก่อนถึงวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2016.08.04
กรุงเทพฯ
160804-TH-referendum-one-620.jpg นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. จำลองหย่อนบัตรลงประชามติใส่กล่อง เพื่อเป็นการเปิดงานประชาสัมพันธ์ใหญ่ประชามติฯ ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้
ภาพเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2559

ในวันพฤหัสบดี (4 สิงหาคม 2559) นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ใหญ่การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559 (บิ๊กเดย์) พร้อมกันทั่วประเทศ หวังเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนออกมาลงประชามติในวันอาทิตย์​ที่ 7 สิงหาคม 2559 นี้ โดย กกต. วางเป้าหมายให้มีผู้ใช้สิทธิออกเสียงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของผู้มีสิทธิทั้งหมด

นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการออกเสียงประชามติฯ ว่า ในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม 2559 ที่จะถึงนี้ กกต. ได้จัดให้มีหน่วยออกเสียงทั้งหมด 94,000 หน่วย โดยแต่ละหน่วยจะมีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย 8 คน ซึ่งรับผิดชอบในการดูแลและอำนวยความสะดวกเรียบร้อยให้กับประชาชนที่ไปใช้สิทธิ ทั้งนี้ ประธานกกต. ยังได้กล่าวเชิญชวนให้ประชาชนออกมาลงประชามติให้มากที่สุดเพื่อเป็นการตัดสินใจอนาคตของประเทศร่วมกัน

“กระบวนการออกเสียงประชามติครั้งนี้ ก็ได้จัดให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อจะใช้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ 20 เมื่อร่างเสร็จแล้วก็นำมาให้ประชาชนลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ด้วยดุลยพินิจของผู้มีสิทธิออกเสียงนั่นเอง” นายศุภชัยกล่าว

ประธาน กกต.กล่าวอีกว่า พอใจอย่างมากกับภาพรวมของความพร้อมในการจัดการหน่วยออกเสียงประชามติฯ ของเจ้าหน้า กกต.ในแต่ละจังหวัด ทำให้มั่นใจว่าในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ จะมีผู้มาออกเสียงสูงกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด สำหรับการประกาศผลประชามติฯ นั้น เชื่อว่าจะสามารถสรุปผลอย่างไม่เป็นทางการได้ภายใน 3 ชั่วโมง หลังจากการปิดหีบออกเสียงในเวลา 16.00 น. โดย กกต.จะใช้การส่งผลการออกเสียงผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และใช้แอปพลิเคชั่นพิเศษเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยออกเสียงในต่างจังหวัดกับส่วนกลางในกรุงเทพฯ

การจัดกิจกรรมที่กรุงเทพฯ เริ่มต้นขึ้นในเวลา 09.09 น. โดยมีผู้ร่วมงานประมาณ 2,000 คน ประกอบด้วยตัวแทนประชาชนจาก 50 เขตของกรุงเทพฯ นักเรียน นักศึกษา นักศึกษาวิชาทหาร และผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง โดยระหว่างดำเนินกิจกรรมมีการร้องเพลงรณรงค์ประชามติฯ จากศิลปินบนเวทีด้วย และเมื่อเสร็จสิ้นงาน ประธาน กกต. ได้ทำการปล่อยขบวนรถประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติ ซึ่งประกอบด้วยรถยนต์ และจักรยานยนต์ที่ติดป้ายประชาสัมพันธ์ออกวิ่งไปตามถนนสายต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ

นักเรียน และนักศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร ร่วมประชาสัมพันธ์การประชามติร่างรัฐธรรมนูญ  (ภาพเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2559)

นายปานศักดิ์ ชาวบ้านเกาะ ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง หนึ่งในผู้ร่วมงานบิ๊กเดย์ เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ว่า เดินทางมาช่วยงานวันนี้ด้วยความสมัครใจ ไม่ได้รับค่าจ้างใดๆ จาก กกต. แต่เรื่องความเข้าใจเกี่ยวกับการประชามติร่างรัฐธรรมนูญนั้นถือว่ามีน้อยมาก เพราะที่ผ่านมารู้สึกว่ารัฐบาลขาดการประชาสัมพันธ์

“ประชามติฯ คืออะไรบ้าง ประชาชนส่วนมากเขาไม่รู้หรอก ลองถามดูได้ ผมก็ยังไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับอะไรบ้างเรื่องประชามติฯ ส่วนมากคนที่รู้จักกันก็จะถามกันว่า ประชามติฯ คืออะไร อีกอย่างนึงเขาร่างอะไรมา? รูปแบบอะไร? เรื่องอะไรบ้าง? ถามว่าไปไหม? ก็ต้องไป แต่อยู่ที่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ก็ต้องดูอีกที” นายปานศักดิ์กล่าว

นอกจากกิจกรรมในกรุงเทพฯ แล้ว ผู้บริหาร กกต. ได้ไปเป็นประธานในหลายพื้นที่ โดยสมาชิก กกต. ที่ไปร่วมงานในพื้นที่ต่าง ๆ มีดังนี้ ในเชียงใหม่ นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต. ด้านสืบสวนสอบสวน ในนครราชสีมา นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต. ด้านการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ ในจังหวัดขอนแก่น นายประวิช รัตนเพียร กกต. ด้านการมีส่วนร่วม และในปัตตานี นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกิจการเลือกตั้ง

การประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559 จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม 2559 ระหว่างเวลา 08.00 น. – 16.00 น. โดยผู้ใช้สิทธิต้องนำบัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือหนังสือเดินทางไปเป็นหลักฐานยืนยันในการออกเสียง การประชามติฯ ครั้งนี้ มีผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด 50,585,118 คน แยกเป็นภาคกลาง 17,704,137 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17,009,430 คน ภาคเหนือ 9,043,219 คน และภาคใต้ 6,828,332 คน สำหรับจังหวัดที่มีผู้มีสิทธิออกเสียงมากที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร 4,483,075 คน รองลงมา คือ จ.นครราชสีมา 2,054,425 คน และ จ.ขอนแก่น 1,429,431 คน จังหวัดที่มีผู้มีสิทธิออกเสียงน้อยที่สุด คือ จ.ระนอง 131,768 คน

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง