นายกฯ เชื่อระเบิดหมายป่วน การประชุม รมต.ต่างประเทศอาเซียน

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2019.08.02
กรุงเทพฯ
190801-TH-ASEAN-US-1000.jpg เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณ ซอยพระราม 9 แยก 57/1 ที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย วันที่ 2 สิงหาคม 2562
ภาพโดยหน่วยกู้ภัย

ในวันศุกร์นี้ เกิดเหตุคนร้ายวางระเบิดหลายจุด ในกรุงเทพและปริมณฑล ในระหว่างมีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในกรุงเทพฯ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าคนร้ายหวังผลต่อการประชุมฯ ด้าน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ระบุ ผู้ก่อเหตุอาจเป็นกลุ่มการเมือง

การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน 2019 ครั้งนี้ จัดขึ้นที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างจากประเทศสมาชิก และประเทศพันธมิตร เช่น จีน สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ฯลฯ และอื่นๆ รวม 31 ประเทศ เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ จัดระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม 2562

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวแก่สื่อมวลชนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า ขอประณามผู้ที่ก่อเหตุระเบิด

“ใครที่ทำก็แล้วแต่ ผมถือว่าเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ ทุกคนกำลังอยู่ในช่วงของการดีใจที่ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง การแถลงนโยบายที่ผ่านมาก็โอเค จะเห็นว่า มันก็มีความพร้อม ไม่ให้เกิดการสูญเสียจำนวนมาก… ถ้าเราไม่เพิ่มมาตรการอาจจะบาดเจ็บหรือสูญเสียมากกว่านี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อเวลาประมาณ 08.50 น. เกิดเหตุระเบิดภายในซอยพระรามเก้า 57/1 เป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบปิงปอง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน เป็นเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของกรุงเทพมหานคร เขตสวนหลวง โดย 2 คน ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า และลำคอ อีกคนมีอาการหูอื้อ ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ล่าสุดสามารถกลับบ้านได้แล้ว 1 ราย

ในเวลาไล่เลี่ยกัน เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้ง ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรีย์ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า 1 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และแพทย์ยังไม่ให้กลับบ้าน ต่อมาเกิดเหตุระเบิดที่พุ่มไม้ หน้าอาคารบี และกองบัญชาการกองทัพไทย ภายในศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ พบหลักฐานเป็นระเบิดแสวงเครื่อง และจุดที่ 4 เมื่อเวลา 10.30 น. เกิดระเบิดอีก 1 ครั้ง ที่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน จ.นนทบุรี ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ก่อนหน้านี้ ในช่วงเย็นวันพฤหัสบดี เจ้าหน้าที่พบวัตถุต้องสงสัยในถุงพลาสติกที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตรงข้ามกับ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิร์ล ซึ่งเป็นที่ใช้จัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า ไม่ใช่ระเบิด เป็นเพียงกล่องและแผงวงจร แต่ไม่มีดินระเบิด ตำรวจพบเบาะแสว่า มีชาย 2 คน เป็นผู้นำมาวาง ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัย 2 รายดังกล่าวได้ ที่จังหวัดชุมพร พบเป็นคนนราธิวาส ปัจจุบัน ทั้งสองรายอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสอบสวนขยายผล

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวแก่สื่อมวลชนว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่า แรงจูงใจของการวางระเบิด ที่เกิดระเบิดทั้ง 4 ครั้ง เป็นเรื่องการเมือง หรือการขยายพื้นที่การก่อความไม่สงบจากจังหวัดชายแดนภาคใต้

“ตอนนี้ ยังบอกไม่ได้ ยังไม่ชัดเจน ระเบิดที่ใช้บางจุดเป็นชนิดเดียวกัน ต้องรอผู้ชำนาญการส่งผลมาก่อน เรื่องยกระดับสถานการณ์ ดูจากส่วนประกอบระเบิดแล้ว ถ้าจะยกระดับทำตรงไหนก็ได้” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับการเมือง

“นี่คือสิ่งบอกเหตุทางการเมือง เกิดจากกลุ่มที่มีความคิดแบบนี้ และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นสิ่งบอกเหตุว่า อาจจะมีครั้งต่อไปเกิดขึ้นอีก แต่ขอให้มั่นใจว่า นายกฯ และฝ่ายความมั่นคง สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยอยู่ระหว่างการขยายผล อย่างไรก็ตาม ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก ส่วนที่ผู้ต้องสงสัย 2 คน มาจากภาคใต้นั้น ไม่ว่าจะเอาคนที่มาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นมาทำหรือไม่ก็ตาม แต่คนที่อยู่เบื้องหลัง ก็ยังเป็นกลุ่มเดิมๆ แต่ไม่ต้องห่วง ท่านนายกฯ ดูแลได้ พวกเราก็ดูแลอยู่ และจะไม่ให้เกิดอีก” พล.อ.อภิรัชต์ ระบุ

ด้านญาติของนายลูไอ แซแง หนึ่งในสองผู้ต้องสงสัย กล่าวว่า ตนเองไม่เชื่อว่านายลูไอ จะมีส่วนในการก่อเหตุ

"เขาไปเที่ยวกับเพื่อนคนที่ถูกจับด้วยเขาสองคนอยู่หมู่บ้านใกล้ๆ กัน เมื่อคืนตกใจมาก ตอนที่เจ้าหน้าที่มาตรวจค้นที่บ้าน ก็ทราบเรื่องตั้งแต่เมื่อคืนว่า เขาถูกจับในข้อหาก่อเหตุความไม่สงบที่กรุงเทพฯ” ญาติของนายลูไอ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกราย คือ นายวิลดัน มาหะ ทั้งสองมีภูมิลำเนาในอำเภอรือเสาะ นราธิวาส

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง