ตำรวจจับ 15 ชาวมาเลเซีย ขนยาไอซ์และเฮโรอีนโดยทางรถไฟ

พลตำรวจโท ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้แถลงข่าวในวันพฤหัสบดี (24 มีนาคม 2559) นี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมชาวมาเลเซียจำนวน 15 คน ที่ได้ขนยาไอซ์และเฮโรอีน รวมกว่าสองร้อยกิโลกรัม จากเชียงใหม่มุ่งหน้าไปยังมาเลเชียโดยทางรถไฟ ในวันพฤหัสที่ผ่านมา

พล.ต.ท. ฐิติราช กล่าวว่า ของกลางที่ยึดมาได้ในการจับกุมในช่วงบ่ายและค่ำของวันพุธนั้น เป็นยาไอซ์ทั้งหมด 226 กิโลกรัม และเฮโรอีนอีก 8 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นล็อตใหญ่มากที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ พร้อมทั้งกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจเข้มในการขนยาเสพติดบนท้องถนน ทำให้นักค้ายามีการเปลี่ยนเส้นทางไปใช้รถไฟ และตนเชื่อว่าจะมีการขนส่งทางอากาศด้วย ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่ามีการใช้ฟอยล์หุ้มยาเสพติดที่ขนมา ซึ่งเครื่องเอ็กซเรย์บางรุ่นไม่สามารถตรวจได้

ทางด้าน พันตำรวจเอก พุฒิเดช บุญกระพรือ ผู้กำกับการกอง 3 กองบังคับการตำรวจรถไฟ ที่มีส่วนในการจับกุมผู้ต้องหา กล่าวว่า ในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมาได้มีสถิติการจับกุมยาเสพติดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้เฝ้าระมัดระวังเป็นพิเศษ และสามารถแกะรอยกลุ่มนักขนยาเสพติดชุดนี้ได้

ทั้งนี้ จากข้อมูลของสายลับที่แจ้งถึงการขนส่งยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟประจำขบวนรถด่วนระหว่างประเทศที่ 35 (กรุงเทพ-ปาดังเบซาร์) สามารถจับกุมนักขนยาชาวมาเลเซียสองคนแรก พร้อมด้วยยาไอซ์หนัก 23 กิโลกรัม ในขณะที่รถไฟขบวนดังกล่าว เดินทางไปถึงราชบุรี จากนั้นได้มีการจับกุมนักค้ายาที่เหลือได้อีกสิบสองราย เมื่อรถไฟเดินทางไปถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี

เจ้าหน้าที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดได้ตั้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์และเฮโรอีน) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

นายฟอซี คาน อิสมาอิล เจ้าหน้าที่การทูตของประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า ตนเองได้พูดคุยกับผู้ต้องหา ซึ่งได้กล่าวว่า ได้รับการจ้างวานให้ขนเป้ที่ตนเองไม่ทราบว่าภายในเป้นั้นบรรจุอะไรไว้ แต่ได้ค่าจ้าง 5,000 บาทต่อหนึ่งบรรจุภัณฑ์ที่อยู่ภายในเป้ โดยได้รับของมาจากจังหวัดเชียงใหม่

ทั้งนี้ ขบวนการขนยาได้แพ็คเฮโรอีนเป็นก้อนหนัก 350 กรัม ส่วนยาไอซ์จะแพ็คเป็นก้อนหนัก 1 กิโลกรัม เป้หนึ่งใบสามารถบรรจุยาเสพติดได้มากกว่าสิบแพ็ค