พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวง ร.9 กำหนดวันที่ 25-29 ตุลาคม 60
2017.04.25
กรุงเทพฯ

ในวันอังคาร (25 เมษายน 2560) นี้ รัฐบาลได้เปิดเผยหมายกำหนดการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ได้มีพระราชวินิจฉัยให้เป็นวันที่ 25-29 ตุลาคม 2560 ตามที่คณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทูลเกล้าฯ เสนอ
“คณะกรรมการอำนวยการที่ท่านนายกฯ เป็นประธานได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลฯ พระเจ้าอยู่หัวท่านทรงมีพระราชวินิจฉัยแล้วให้เป็นไปตามกำหนดวันที่คณะกรรมการฯเสนอขึ้นไป คือ 25-29 ตุลาคม โดยในแต่ละวันจะมีพระราชพิธีต่างๆ วันนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติเฉพาะวันที่ 26 เป็นวันหยุดราชการ” พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ผ่านโทรศัพท์
“พิธีการอื่นๆ ได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว เช่น วันที่ 25 ตุลาคม เป็นพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ วันสุดท้ายก่อนเคลื่อนย้ายพระบรมศพฯ หมายกำหนดการจะเป็นไปตามที่เสนอไปทั้งหมด” พล.ท.สรรเสริญ กล่าวเพิ่มเติม
หมายกำหนดการที่คณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีฯได้กำหนดมี ดังนี้
วันที่ 1 พระราชกุศลออกพระเมรุ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
วันที่ 2 พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
วันที่ 3 เก็บพระบรมอัฐิ ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
วันที่ 4 งานพระราชกุศลพระบรมอัฐิ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
วันที่ 5 เลี้ยงพระ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐานพระวิมานบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
สำหรับ การจัดขบวนพระบรมราชอิสริยยศเพื่ออัญเชิญพระบรมศพ พระโกศพระบรมอัฐิ และ พระบรมราชสรีรางคาร กำหนดไว้ 6 ขบวน โดยจะมีการฝึกซ้อมย่อยและฝึกซ้อมใหญ่ในสถานที่จริงเพื่อให้มีความพร้อมเพรียงและสง่างามสมพระเกียรติยศ การจัดแสดงมหรสพสมโภช ประกอบด้วย การจัดแสดงโขนหน้าไฟหน้าพระเมรุมาศ เรื่อง รามเกียรติ์ ชุดพระรามข้ามสมุทร ยกรบ รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ การแสดงมหรสพสมโภชบริเวณท้องสนามหลวงด้านทิศเหนือ ประกอบด้วย การแสดงหนังใหญ่และโขนพระราชทาน ตอน รามาวตาร การแสดงละคร หุ่นหลวงและหุ่นกระบอก และการบรรเลงดนตรีสากล “ธ คือ ดวงใจไทยทั่วหล้า” การจัดนิทรรศการเย็นศิระเพราะพระบริบาล รวมไปถึงการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจการทรงงานในแต่ละพื้นที่ของจังหวัด นิทรรศการด้านการพระราชไมตรีที่เกี่ยวกับประเทศต่าง ๆ ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
ขณะที่ การจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ของภาคประชาชนจะดำเนินการทั้งในกรุงเทพมหานคร จังหวัดและอำเภอทั่วประเทศ ตลอดจนในต่างประเทศด้วย ซึ่งในกรุงเทพมหานครจะจัดตั้งซุ้มถวายดอกไม้จันทน์บริเวณใกล้ท้องสนามหลวง 11 ซุ้ม และตามมุมเมือง 4 ซุ้ม ซุ้มขนาดกลางตามแนวถนนราชดำเนินและถนนอรุณอมรินทร์ 19 ซุ้ม และซุ้มขนาดเล็กตามวัดต่าง ๆ 67 ซุ้ม ส่วนภูมิภาคมีซุ้มขนาดใหญ่ 76 ซุ้ม (อำเภอร่วมกับจังหวัด) และซุ้มขนาดกลางทุกอำเภอ/วัดต่าง ๆ 802 ซุ้ม ส่วนในต่างประเทศจะมีซุ้มขนาดกลาง ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุล 96 ซุ้ม และซุ้มขนาดเล็กตามวัดไทย 539 ซุ้ม รวมทั้งยังได้เชิญชวนจิตอาสาร่วมกันทำดอกไม้จันทน์เพื่อใช้สำหรับประชาชนที่ไปร่วมงานสามารถนำดอกไม้จันทน์ไปถวายได้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งครองราชย์นานกว่า 70 ปี และทรงเป็นที่ยึดเหนี่ยวของพสกนิกรชาวไทยท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองและเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองหลายครั้ง เสด็จสวรรคตในวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ด้วยพระชนมายุ 89 พรรษา ตามการประกาศของสำนักพระราชวัง หลังจากที่คณะแพทย์โรงพยาบาลศิริราชถวายการรักษามาตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2557
เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมานี้ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์รายงานว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย กล่าวอ้างอิงถึงคำพูดของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า ภายหลังจากพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เสร็จสิ้นลงแล้ว คาดว่า จะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ในเดือนธันวาคม ศกนี้