ไทย-สหรัฐ ปิดการฝึกทหารคอบร้าโกลด์ ครั้งที่ 38
2019.02.22
สุโขทัย

พลเอกพรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมด้วยด็อกเตอร์ปีเตอร์ เฮย์มอนด์ อุปทูตรักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และพลเรือเอกฟิลิป เอส. เดวิดสัน ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ 19 ในวันศุกร์นี้ หลังจากที่ 29 ประเทศ ได้ร่วมฝึกในภารกิจต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ซึ่งก่อนพิธีปิด ได้มีการสาธิตการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง (CALFEX) ณ สนามฝึกกองทัพภาคที่ 3 อำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย โดยมีกำลังพลและยุทโธปกรณ์จากกองทัพไทย กองทัพสหรัฐอเมริกา กองทัพอินโดนีเซีย กองทัพมาเลเซีย และกองทัพสิงคโปร์ กว่า 725 นาย ร่วมในการฝึกครั้งนี้
“ที่เราเห็นในวันนี้ คือการใช้อาวุธจริงร่วมกัน เพื่อสร้างความสามารถในการรบที่แข็งแกร่ง ที่จำเป็นสำหรับการป้องกันความขัดแย้ง แต่การฝึกคอบร้าโกลด์ยังครอบคลุมการให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม ในการจัดการกับอุบัติภัย ที่ผู้เข้าร่วมฝึกและผู้สังเกตการณ์ได้รับประสบการณ์ด้วยกัน” พล.ร.อ.ฟิลิป เอส. เดวิดสัน กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว
การฝึกคอบร้าโกลด์ ถือเป็นการฝึกทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกองทัพไทยและกองกำลังสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกในประเทศไทยเป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้ เป็นครั้งที่ 38
“ประเทศสหรัฐ มีความมุ่งมั่นต่อเสรีภาพและความเปิดกว้างในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก แต่ขึ้นอยู่กับความพร้อมใจค่านิยมร่วมกัน ความห่วงใยในเรื่องความมั่นคง และผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งต้องร่วมกันฝึกฝนและเรียนรู้เพื่อพัฒนาเสรีภาพและเปิดกว้างในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ร่วมมือกันในยามที่มีภัยพิบัติ ซึ่งจะช่วยป้องกันความขัดแย้งได้” พล.ร.อ.ฟิลิป กล่าวเพิ่มเติม
ในส่วนของการฝึกของกองทัพเรือ ยังมีการฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ของพันธมิตรสามชาติ ได้แก่ สหรัฐ เกาหลีใต้ และไทย โดยจัดขึ้นที่หาดยาว อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และการดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง จัดขึ้นที่บ้านจันทเขลม จ.จันทบุรี
นอกจากนั้น ประเทศต่างๆ รวม 29 ประเทศ ที่มีส่วนร่วมในการฝึกคอบร้าโกลด์ ในฐานะผู้สังเกตการณ์ หรือผู้ร่วมฝึกในภารกิจช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการฝึกรบ ยังจะได้สร้างคุ้นเคยระหว่างกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ในภูมิภาค