ศาลถอนฟ้องคดีพกพาเสื้อเกราะของแอนโทนี่ กวาน ช่างภาพฮ่องกง
2016.03.08
กรุงเทพฯ

ในวันอังคาร (8 มีนาคม 2559) นี้ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT)ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการว่า ศาลได้ยกฟ้องคดีพกพายุทธภัณฑ์ (เสื้อเกราะและหมวกนิรภัย) ของนายแอนโทนี่ กวาน ช่างภาพชาวฮ่องกง-แคนาดาแล้ว โดยรัฐบาลเป็นผู้ยื่นหนังสือถอนฟ้องต่อศาล
เจ้าหน้าที่ศาล 2 คน กล่าวกับสมาคมฯว่า รัฐบาลส่งหนังสือถอนฟ้องคดีดังกล่าวไปที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2558 และ ศาลได้พิจารณา และแจ้งให้นายกวาน ทราบว่า ศาลได้ถอนฟ้อง และคดีดังกล่าวถือว่าสิ้นสุดในวันที่ 29 มกราคม 2559 ทั้งนี้ศาลไม่ได้กล่าวถึงเหตุผลของการถอนฟ้องคดีนี้
ด้านนางสาวภาวิณี ชุมศรี ทนายความของนายกวาน ได้ยืนยันว่า คดีดังกล่าวสิ้นสุดแล้ว โดยนายกวานไม่ถูกลงโทษ อย่างไรก็ดี ตัวของนายกวานเองไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์หรือให้ข้อมูลใดๆ กับสื่อมวลชนในตอนนี้
ประวัติคดีเสื้อเกราะนายแอนโทนี่ กวาน
นายแอนโทนี่ กวาน หรือกวาน ฮอกชุน อายุ 30 ปี ช่างภาพสัญชาติฮ่องกง-แคนาดา ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 เพื่อทำข่าวการวางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และเตรียมตัวที่จะเดินทางกลับฮ่องกงในวันที่ 23 สิงหาคม 2558 แต่ถูกควบคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สนามบินตรวจพบว่าเขาพยายามที่จะนำเอาเสื้อเกราะกันกระสุน และหมวกกันกระสุน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำข่าวภาคสนามในเขตที่มีความอันตรายขึ้นเครื่องบิน
ต่อมาในวันที่ 24 สิงหาคม 2558 นายกวานถูกนำตัวไปขึ้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ และศาลได้รับฟ้องข้อหา “มีอาวุธไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาวุธยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี
การดำเนินคดีกับนายกวานครั้งนี้ สร้างความผิดหวังให้กับผู้สื่อข่าวต่างประเทศจำนวนมาก เนื่องจาก ผู้สื่อข่าวมองว่า เสื้อเกราะกันกระสุนและหมวกนิรภัยเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการทำงานภาคสนามของนักข่าวในพื้นที่เสี่ยงอันตราย โดย FCCT ในฐานะตัวแทนผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวังกับการดำเนินคดีครั้งนี้ และในวันที่ 12 ตุลาคม 2558 ตัวแทนผู้สื่อข่าวและช่างภาพข่าวฮ่องกงหลายคนยังได้รวมตัวชุมนุมที่หน้าสถานกงสุลไทยประจำฮ่องกง เพื่อเรียกร้องให้ทางการไทยยุติการดำเนินคดีครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลากว่า 6 เดือนที่คดีอยู่ในการพิจารณาของศาล ศาลได้ให้ประกันตัวแก่นายกวาน และนายกวานสามารถเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปทำข่าวได้ตามปกติ แต่นายกวานต้องกลับมารายงานตัวต่อศาลให้ทันตามนัดอย่างเคร่งครัด