ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาทหาร 8 จากสิบนาย ข้อหาซ้อมพลทหารตาย

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2017.04.05
กรุงเทพและปัตตานี
TH-militarydraft-1000 หนึ่งในชายไทยขณะจับสลากในการคัดเลือกทหารเกณฑ์ประจำปี ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2560
เอเอฟพี

พลตำรวจตรีอภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวในวันพุธ (5 เมษายน 2560) นี้ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวทหาร 8 นายไว้ เพื่อการสอบสวนในคดีซ้อมพลทหารยุทธภินันท์ บุญเนียม จนเสียชีวิต ในระหว่างการถูกลงโทษทางวินัยในค่ายทหารที่สุราษฎร์ธานี

พลตำรวจตรีอภิชาติ ได้กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยจากศาลรวม 10 นาย เป็นทหารชั้นประทวน 5 นาย และพลทหารอีก 5 นาย โดยศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว 9 นาย ส่วนอีกหนึ่งนายนั้น จะเรียกมาพบเจ้าหน้าที่เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาก่อน

“เราได้ขอออกหมายจับ 10 ได้หมายจับ 9 นาย อีกหนึ่ง 1 นาย ให้เรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาก่อน ปัจจุบัน ควบคุมตัวแล้วทั้งหมด 8 คน” พลตำรวจตรีอภิชาติ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์

“ขั้นตอนต่อไปจะนำตัวคนที่ควบคุมแล้วมาสอบสวน ส่วนคนที่ยังไม่ได้ควบคุมตัว ก็จะตามจับ และเรียกมารับฟังข้อกล่าวหา” พลตำรวจตรีอภิชาติ กล่าวเพิ่มเติม

ในวันที่ 1 เมษายน 2560 หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ได้รายงานข่าวการเสียชีวิตของพลทหารยุทธภินันท์ บุญเนียม อายุ 22 ปี หลังจากที่มีผู้ใช้เฟซบุคชื่อ Bom Lung Lang ได้แชร์ข้อมูลของ พลฯ ยุทธภินันท์ ที่รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้น ได้สัมภาษณ์นางเรณู หมดราคี มารดาของผู้ตาย ซึ่งได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา ตนเองทราบจากเพื่อนของลูกชาย ถูกทำโทษทางวินัยโดยคุมขังในเรือนจำทหาร และเมื่อตนไปพบลูกชายจึงเห็นว่าถูกซ้อมมีอาการสาหัส จึงได้นำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และเสียชีวิตในวันนี้ โดยแพทย์ชันสูตรว่าถูกซ้อมจนไตวาย

ในวันนี้ หนังสือพิมพ์แนวหน้า ได้รายงานว่า ทหารทั้งแปดนายที่ถูกควบคุมตัวไว้ ได้เข้าพบนางเรณู เพื่อกราบขอขมา ซึ่งนางเรณูได้ให้อโหสิกรรมและจะเผาศพบุตรชายในวันที่ 10 เมษายน นี้

ข่าวแจ้งว่า ต่อมานางเรณู หมดราคี อายุ 40 ปี มารดาของ พลทหารยุทธภินันท์ ได้เข้าพบ พล.ต.วิชัย เพื่อขอพบหน้าผู้ก่อเหตุที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ กระทั่งพอผู้ต้องหา 8 นาย มาพบหน้านางเรณู ทั้งหมดก็นั่งคุกเข่าพนมมือ ก่อนจะก้มลงกราบแทบเท้า เพื่อขอโทษกับพฤติการณ์ที่ได้ทำลงไป ทำให้นางเรณูถึงกับสะอึกสะอื้นพูดอะไรไม่ถูก ได้แต่บอกว่า"แม่ขออโหสิกรรมให้" พร้อมทั้งเตรียมเผาร่างลูกชายในวันที่ 10 เม.ย. ที่วัดกัลปนาราม ต.เวียงสระ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี

ในวันจันทร์ที่ผ่านมา พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ได้ออกมาขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“ผมต้องขอโทษสังคมอีกครั้ง ที่เกิดกรณีนี้ขึ้น อาจเรียกได้ว่าติดนิสัยมาตั้งแต่ในอดีตในเรื่องการฝึก เนื่องจากฝึกทหารเพื่อไปทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ชายแดน จึงต้องเข้มงวดกวดขัน และมีการฝึกการจัดระเบียบวินัยที่หนักและลงโทษรุนแรง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ในปัจจุบันค่อยๆ คลายตัวลงไปแล้ว และมีกรอบการฝึกที่เหมาะสม แต่ก็ยังมีจุดมีดำอยู่ ซึ่งผมพยายามจะแก้ไข เพราะผมถือว่า เป็นเรื่องที่ผมต้องรับผิดชอบตรงนี้ ไม่ให้มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีกครั้ง” พลเอกเฉลิมชัย กล่าวต่อสื่อมวลชน

ทหารไทย: การใช้กำลังเกินกว่าเหตุ จนถึงแก่ชีวิต

ในปี 2554 พลทหารวิเชียร เผือกสม อายุ 26 ปี มหาบัณฑิตจากคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่สมัครเข้าเป็นทหารเกณฑ์เข้ารับการฝึกในเดือนมิถุนายน ได้ถูกทหารครูฝึกทำโทษจนถึงกับเสียชีวิต โดยครูฝึกอ้างว่า พลทหารวิเชียรมีความพยายามที่จะหลบหนี

พ.ต.ภูริ เพิกโสภณ อดีตผู้บังคับบัญชาของพลฯวิเชียร ถูกสั่งพักราชการในเดือนมกราคม 2560 และกำลังถูกสอบสวน โดยเบื้องต้น พ.ต.ภูริ ถูก ป.ป.ท.ชี้มูลความผิดในประมวลกฎหมายอาญา ตามมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 83 การร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป และมาตรา 290 ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย

และเมื่อกลางเดือนมีนาคมนี้ เจ้าหน้าที่ทหารประจำด่านตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ใช้อาวุธปืนยิงนายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมและประธานเครือข่ายเยาวชนต้นกล้าชนเผ่าพื้นเมือง ชาวลาหู่เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่กล่าวว่า เหตุเกิดหลังจากการค้นพบยาเสพติดในรถยนต์ที่นายชัยภูมินั่งมากับเพื่อน แล้วนายชัยภูมิ พยายามหลบหนี และขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ที่จะเข้าจับกุมตัว

กองทัพบกได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนโดยมีแม่ทัพภาคที่สาม เป็นประธาน ซึ่งในเบื้องต้น พลโทวิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้กล่าวว่า จากภาพวงจรปิดในขณะเกิดเหตุ ทหารได้ทำหน้าที่และป้องกันพอสมควรแก่เหตุ แต่ไม่เปิดเผยวิดีโอคลิป และจะนำไปใช้เป็นวัตถุพยานในชั้นศาล ท่ามกลางความสงสัยของญาติของผู้ตายและนักสิทธิมนุษยชน

ในวันนี้ องค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุเสียชีวิตของ พลฯยุทธภินันท์ อย่างโปร่งใสและโดยเร็ว พร้อมทั้งเรียกให้กองทัพบกหาหนทางยุติการลงโทษพลทหาร โดยทหารระดับนายสิบและผู้บังคับบัญชาระดับสูง

“ทหารไทยควรดำเนินการโดยฉับพลัน ในการที่จะแสดงให้เห็นว่าจะไม่มีที่ยืนให้กับบุคคลที่คิดว่าตนมีอำนาจโดยไม่ถูกตรวจสอบ หรือมีอำนาจข่มเหงทหารหรือผู้อื่น รัฐบาลและผู้บังคับบัญชาระดับสูง ควรจะรับประกันว่าการตายของพลฯ ยุทธภินันท์ จะเป็นกรณีสุดท้ายของความป่าเถื่อน ในค่ายทหารของไทย” แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการ ฮิวแมนไรท์วอทช์ ภูมิภาคเอเชีย กล่าวในแถลงการณ์

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง