แกนนำนักศึกษามุ่งมั่นเดินหน้าชุมนุมใหญ่ เสาร์ 19 ก.ย. นี้
2020.09.18
กรุงเทพฯ

ในวันศุกร์นี้ แกนนำนักศึกษา กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ผู้จัดงานชุมนุม “19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ประกาศมุ่งมั่นดำเนินการชุมนุมใหญ่ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมถึงเจ็ดหมื่นคน แม้กองงานธุรการประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะประกาศปิดประตูทางเข้า-ออก ก็ตาม ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขเตรียมจัดหน้ากากอนามัยเพื่อแจกผู้ชุมนุมทุกคน
โดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน หนึ่งในแกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อสองวันก่อน เปิดกว้างให้ผู้มาเข้าร่วมการชุมนุมได้จากทุกที่ เพียงขอให้เป็นกิจกรรมสันติวิธี ไม่ทำให้เกิดอันตราย
“อีกแค่สามวันนะครับ ม็อบนี้เปิดกว้าง ใครจะมาแจว วิ่งแฮมทาโร่ เต้นเพลงกัน หรือทำอะไรในม็อบ ก็เปิดกว้างหมด ขอให้เป็นกิจกรรมสันติวิธี ไม่ทำให้เกิดอันตราย ก็เป็นพอครับ”
และนายพริษฐ์ระบุในเฟซบุ๊กเพจวานนี้อีกว่า
“ในขณะที่มหาวิทยาลัยไม่อนุมัติให้เราใช้พื้นที่ทำกิจกรรม แต่กลับอนุญาตให้กลุ่มชายหัวเกรียนในเครื่องแบบกากี มาด้อม ๆ มอง ๆ ดูนักศึกษาในเขตมหาวิทยาลัย อาจารย์เกศินี มีจิตวิญญาณธรรมศาสตร์หลงเหลืออยู่บ้างหรือไม่” จากเฟซบุ๊กเพจนายพริษฐ์
ด้านกองงานธุรการคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกเอกสารลงวันที่ 16 กันยายน 2563 ขอความร่วมมือคณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ โดยประกาศงดการเรียนการสอน และงดการติต่อ ในวันที่ 19-20 กันยายน 2563 และให้มหาวิทยาลัยปิดประตูทางเข้า-ออก ด้านสนามหลวงและท่าพระจันทร์ และเหลือประตูด้าน ถนนพระอาทิตย์ เพียงประตูเดียว หากต้องผ่านเข้าให้แสดงบัตรประจำตัวพนักงานมหาวิทยาลัย หรือ บัตรประชาชน พร้อมเหตุผล ตามที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงขอมา
ส่วนเฟซบุ๊กแฟนเพจ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ผู้จัดงานชุมนุม “19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร” ได้ประกาศรายชื่อผู้ปราศรัย โดยมี นายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ “เพนกวิน” ชิวารักษ์, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน เป็นแกนนำ
“เปิดตัวผู้ปราศรัยเวทีสนามหลวง #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร #ธรรมศาสตร์และการชุมนุม… นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง, นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว, ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือหมู่อาร์ม, นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และอื่น ๆ” แฟนเพจ ระบุ
ขณะที่ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน กล่าวแก่สื่อมวลชนที่ไปสังเกตการณ์เตรียมการชุมนุมว่า ต้องการให้รัฐบาลรับฟังประชาชน ไม่เช่นนั้นจะมีการยกระดับการชุมนุม
“ตำรวจควรที่จะมาร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับประชาชน เมื่อเห็นประชาชนออกมากันมากขนาดนี้ ควรที่จะมาร่วมกัน สำหรับรัฐบาลชุดนี้ เราอยากเห็นรัฐบาลรับฟังประชาชน เพื่อที่สถานการณ์ทุกอย่างจะได้ดีขึ้น เพราะถ้าไม่ฟัง ก็เชื่อว่าประชาชนจะไม่ยอม และไม่หยุดที่จะต่อสู้ แล้วคงจะมีการยกระดับไปเรื่อย ๆ” นายจตุภัทร์ กล่าว
ด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ไปเยี่ยมชมการจัดเตรียมการปราศรัย ระบุผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า แม้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะปิดประตูไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไป แต่กลับพบกลุ่มชายคล้ายตำรวจอยู่ภายใน
“มีชายหัวเกรียน 5-6 คน ขับรถจักรยานยนต์เข้าไปภายในรั้วมหาวิทยาลัยได้ จนเป็นคำถามว่าใช่ตำรวจนอกเครื่องแบบหรือไม่ เหตุใดมหาวิทยาลัยที่ห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปในบริเวณพื้นที่ แต่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เข้าไปได้” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกาศเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 ว่าจะห้ามให้ผู้ชุมนุมใช้สถานที่ ขณะที่ แกนนำการชุมนุมก็ประกาศว่า จะพยายามเข้าไปภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย และสนามหลวงให้ได้
กระทรวงสาธารณสุขเตรียมแจกหน้ากากอนามัยแก่ผู้ชุมนุม
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวแก่สื่อมวลชนว่า ในวันที่ 19 กันยายน 2563 จะให้เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขไปแจกอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ให้แก่ผู้ชุมนุม
“การชุมนุมที่ผ่านมา เราได้เห็นว่า ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่สวมใส่หน้ากากอนามัย แต่ก็ยังมีผู้ชุมนุมบางส่วนที่ยังไม่ใส่เพราะฉะนั้น การชุมนุมวันที่ 19 กันยายน นี้ ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าจะมีผู้ชุมนุมจำนวนมาก หลายหมื่นคน กระทรวงสาธารณสุข จึงจะนำหน้ากากอนามัยไปให้ผู้ชุมนุมทุกคนได้สวมใส่ และ นำเจลแอลกอฮอล์ ไปให้ใช้บริการล้างมือบ่อย ๆ เพื่อที่จะป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งนอกจากโควิด-19 ยังช่วยป้องกันโรคทางเดินหายใจ และโรคติดต่ออื่น ๆ จาการสัมผัส และหายใจ ไอ จาม ใส่กันในระยะใกล้ ๆ ได้อีกด้วย” นายอนุทิน กล่าว
“ขอให้ทุกคนมีความเชื่อมั่น เชื่อใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จุดมุ่งหมายของผู้ปฏิบัติทุกคนมีเพียงข้อเดียวคือ ต้องการให้การจัดการชุมนุมครั้งนี้ และทุกคนที่เข้าร่วมกาชุมนุม มีความปลอดภัย และไม่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงโรคติดต่ออื่น ๆ ด้วย เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชนทุกคน” นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติม