กอ.รมน. ภาคสี่ แจงการเก็บดีเอ็นเอเด็กทำโดยโปร่งใส

พันเอกยุทธนาม เพชรม่วง  รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้แถลงการณ์ในวันนี้ (25 พ.ย. 2558) เพื่อชี้แจงถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจดีเอ็นเอของ เด็กชายชาลีฟ มะลี อายุ 5 เดือนว่า มีความจำเป็นเพื่อที่จะนำตัวอย่างดีเอ็นเอของเด็กที่คล้ายคลึงกับของบิดาไปเก็บไว้ในสารบบ และใช้เปรียบเทียบกับหลักฐานในที่เกิดเหตุที่นายเสรี แวมามุ ผู้เป็นบิดาได้ก่ออาชญากรรมไว้

“การตรวจเก็บสารทางพันธุกรรม ดีเอ็นเอของน้องชาลีฟ มะลี การตรวจของลูกจะมีดีเอ็นเอของพ่อบวกกัน เมื่อตรวจของลูก จะได้ของพ่อด้วย ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่เคยมีตัวอย่างดีเอ็นเอของ นายเสรี แวมามุ มาก่อน” พันเอกยุทธนามกล่าว

“นายเสรี เคยทำอะไรไว้จะได้เปรียบเทียบในสารบบ ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพ ในการติดตามจับกุมได้แม่นยำตรงตัว ซึ่งหากไม่แม่นด้วยหลักฐาน ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐจะโดนและถูกกล่าวหาว่าเป็นการกลั่นแกล้ง” พันเอกยุทธนาม กล่าวเพิ่มเติม

พันเอกยุทธนาม กล่าวถึงประวัติของนายเสรี แวมามุ ว่ามีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ที่ 6 ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา มีหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี และศาลจังหวัดสงขลา ติดตัว 12 คดี รับผิดชอบเคลื่อนไหวในพื้นที่อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา นายเสรีเป็นผู้ต้องหาในจำนวน 100 คน ตามปฏิทินหมายจับปี 2558 ของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้

“เป็นคนร้ายคนแรกตามภาพวงจรปิด และเป็นตัวจริง มีพยานยืนยันชัดเจนว่าเป็นมือวางระเบิดศูนย์การค้าลีการ์เด้นส์พลาซ่า กลางเมืองหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายร้อยคน ผู้เสียชีวิตที่ถูกไฟคลอก 5 ราย มีสามพ่อลูกรวมอยู่ด้วย” พันเอกยุทธนามกล่าว

พันเอกยุทธนาม ยังกล่าวว่า “การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นไปตามขั้นตอน โปร่งใส บริสุทธิ์ และยุติธรรม”

ช่วงเย็น ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2558 เจ้าหน้าที่สามฝ่ายได้สนธิกำลังในการค้นหากลุ่มก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี และได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 57/1 หมู่ที่ 1 บ้านดอนรัก ตำบลดอนรัก อำเภอหนองจิก โดยมีผู้นำชุมชนซึ่งเป็นกำนันอยู่ในเหตุการณ์ด้วยตลอดเวลา ในขณะที่เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจเก็บสารทางพันธุกรรม และเก็บลายพิมพ์นิ้วมือบุคคลในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการจัดทำเอกสารเพื่อให้มีการเซ็นยินยอมไว้เป็นหลักฐานแล้ว

จากนั้นได้เชิญตัวบุคคลทั้งสี่ ได้แก่ น.ส. เจ๊ะปาตีเมาะ แวกะจิ เจ้าของบ้าน นายมาอุเซ็น แวจิ น.ส. ซอมารีย๊ะ มะลี ซึ่งเป็นภรรยาของ นายเสรี แวมามุ รวมทั้งเด็กชายชาลีฟ มะลี ไปยังสถานีตำรวจหนองจิก เพื่อซักถามข้อมูล และเพื่อบันทึกการตรวจค้นลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยไม่มีการควบคุมตัวแต่อย่างใด

“นายเสรี แวมามุ เป็นสมาชิกผู้ก่อการร้าย และเป็นผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่มีความโหดเหี้ยม” พันเอกยุทธนาม กล่าว

“และการที่เจ้าหน้าที่มีดีเอ็นเอของนายเสรี จะเป็นประโยชน์ในการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งจะสามารถหยุดการกระทำอันโหดเหี้ยมดังกล่าว และจะเป็นการป้องกันผู้บริสุทธิ์ไม่ให้ได้รับผลกระทบกับการกระทำของเขาอีกต่อไป”

เบนาร์นิวส์ ไม่สามารถติดต่อกับ น.ส. ซอมารีย๊ะ มะลี ซึ่งเป็นภรรยาของนายเสรี แวมามุ และมารดาของเด็กชายชาลีฟ มะลี เพื่อขอความเห็นได้ในวันนี้