กะเหรี่ยง-เมียนมา หนีเข้าตากหลายพันคนหลังการสู้รบปะทุอีกรอบ
2023.04.06
กรุงเทพฯ และเชียงใหม่

ชาวกะเหรี่ยง-เมียนมา หนีข้ามพรมแดนมายังฝั่งไทยบริเวณจังหวัดตากหลายพันคน หลังจากการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มกองกำลังต่อต้านปะทุรุนแรงในเมืองเมียวดี ในสัปดาห์นี้
ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก เปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ว่า มีชาวกะเหรี่ยง-เมียนมา เดินทางมายังประเทศไทย 3,998 คน ณ เวลาสองทุ่มของคืนวันพุธที่ผ่านมานี้ ขณะที่เอ็นจีโอระบุว่า ตัวเลขพุ่งสูงขึ้นเป็นประมาณ 8,000 คน และร้องขอให้ทางการไทยอย่าเพิ่งรีบส่งตัวกลับ หากสถานการณ์ยังไม่สงบจริง เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อน
“เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 เวลา 06.30 น. ปรากฏเหตุการณ์ปะทะระหว่างกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) กับกองกำลังชนกลุ่มน้อย/กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา บริเวณอำเภอเมียวดี จังหวัดเมียวดี ด้านตรงข้ามบ้านห้วยบง ตำบลแม่จะเราะ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก ไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนไทย บริเวณแนวชายแดนไทย” ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก ระบุ
“ปัจจุบัน ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ที่มีความกังวลจากสถานการณ์ในพื้นที่ได้เดินทางเข้ามายังฝั่งไทยจำนวน 3,998 คน ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว อำเภอแม่ระมาด จำนวน 4 พื้นที่ และพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว อำเภอแม่สอด จำนวน 6 พื้นที่” ศูนย์สั่งการฯ ระบุ
ศูนย์สั่งการฯ ระบุว่า กองกำลังนเรศวร, ตำรวจภูธรจังหวัดตาก และฝ่ายปกครอง ได้ติดตามสถานการณ์ในฝั่งเมียนมาอย่างต่อเนื่อง โดยกองทัพอากาศเฝ้าระวัง และพร้อมขึ้นบินลาดตระเวนรบหากมีการล้ำรุกน่านฟ้าไทย โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนไทยงดเดินทางไปใกล้พื้นที่ดังกล่าว เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
“ประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย และไม่สนับสนุนให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใช้พื้นที่ประเทศไทยเป็นพื้นที่สนับสนุนผลประโยชน์ของกลุ่มตนเอง” แถลงการณ์ ระบุ
ชาวเมียนมาหลบหนีเข้าประเทศไทยท่ามกลางการสู้รบระหว่าง กองทัพเมียนมาและกองกำลังต่อต้าน โดยกองทหารรัฐบาลใช้เฮลิคอปเตอร์ทหาร 2 ลำ ต่อสู้กับกลุ่มกบฏกะเหรี่ยง แหล่งข่าวบอกเรดิโอฟรีเอเชีย (วิดีโอ : นักข่าวพลเมือง)
ด้าน พรสุข เกิดสว่าง จากมูลนิธิเพื่อนไร้พรมแดน กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า สถานการณ์การสู้รบในประเทศเมียนมาเกิดขึ้นมาโดยตลอด นับตั้งแต่มีการรัฐประหารรัฐบาลพลเรือน วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 แต่กลับมาปะทุรุนแรงอีกครั้งในช่วงนี้
“สิ่งที่เราชื่นชมคือ เจ้าหน้าที่ไม่ได้พยายามปิดกั้น หรือห้ามไม่ให้เขาข้ามมา ซึ่งถือเป็นเรื่องดี แต่สิ่งที่เรากังวลหรือต้องการขอร้องคือ ขออย่าให้ฝ่ายไทยพยายามรีบร้อนผลักดันพวกเขากลับไปนัก เพราะเชื่อว่าถ้ารีบผลักดันกลับไปเร็ว มีสถานการณ์เขาก็ต้องหนีกลับเข้ามาอีกรอบ ก็จะเป็นปัญหากลับไปกลับมาอีก” พรสุข กล่าว
“สำหรับสาเหตุการสู้รบในครั้งนี้ ตามข่าวภายในคือ กองกำลังหลายกลุ่มพยายามร่วมมือกัน โจมตีคาสิโน ใกล้พื้นที่ชเวโก๊กโก เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง เพราะพื้นที่ดังกล่าว แต่เดิมมันเป็นคาสิโนเปิดเผยอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันกลายเป็นพื้นที่สีเทา ที่ถูกใช้เป็นพื้นที่อาชญากรรมออนไลน์ มีการสแกม มีคนถูกลักพาตัวเข้าไปในพื้นที่ แล้วก็หนีออกมาได้”
“กองกำลังจึงพยายามโจมตีพื้นที่นี้เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ แต่ตอนนี้ ตามข่าวกองกำลังก็ยังไม่สามารถเข้าไปถึงพื้นที่นั้น เพราะกองทัพพม่าก็ส่งกองกำลังเข้ามาเยอะ และส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด ทำให้ความรุนแรงมากขึ้นจนชาวบ้านต้องหนีเข้ามาในฝั่งไทย” พรสุข กล่าวเพิ่มเติม
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมา สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 กองทัพเมียนมาได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปี และยึดอำนาจและควบคุมตัวนายวิน มินต์ ประธานาธิบดี, นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ, และสมาชิกพรรคอีกหลายคน โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้การทุจริตเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) นำโดยนางอองซาน ซูจี เป็นฝ่ายชนะ
จากนั้น ประชาชนจำนวนมากในหลายพื้นที่ได้ประท้วง ส่วนกองกำลังชนกลุ่มน้อยได้ใช้อาวุธเข้าสู้รบกับกองทัพของรัฐบาลทหาร ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีชาวเมียนมาบางส่วนได้หนีภัยการสู้รบข้ามมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอน และตาก กระทั่งความรุนแรงลดลงไปในช่วงฤดูฝน ก่อนจะกลับมาปะทุอีกครั้งในปัจจุบัน