รัฐบาลเชื่อบ้านเมืองสงบดีอยู่แล้ว ควรปล่อยให้ กกต. ทำหน้าที่ตามกำหนดการ
2016.06.22
กรุงเทพฯ

วันพุธ (22 มิถุนายน 2559) นี้ ทางโฆษกของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชี้ คสช. จำเป็นต้องควบคุมให้สถานการณ์สงบสุข ประชาชนและองค์กรสิทธิต่างๆ ควรปล่อยให้เจ้าหน้าที่รัฐได้ทำหน้าที่ตามกำหนดการเดิม
โดย พันเอก ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. กล่าวแก่เบนาร์นิวส์วันนี้ ต่อการปิดศูนย์ปราบโกงฯ และแถลงการณ์ของฮิวแมนไรท์วอทช์ ว่า แม้จะมีความเห็นจากองค์กรต่างประเทศเข้ามา แต่ คสช.ยังจำเป็นต้องดำเนินการต่างๆ เพื่อเป็นการรักษาความสงบในบ้านเมือง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเตรียมการออกเสียงประชามติฯ ได้ตามแผนที่วางไว้ จึงไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงท่าทีการปฎิบัติหน้าที่ในตอนนี้
“ห้วงที่ผ่านมาเราก็จะเห็นแล้วว่า มีกลุ่มคน กลุ่มบุคคล แล้วก็อดีตนักการเมืองหรือพรรคการเมืองที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับเรื่องการตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ เรื่องการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งมันก็สร้างกระแสสังคมให้สับสนวุ่นวาย” พันเอกปิยพงศ์ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์
“ทั้งนี้ คสช. เอง ยังคงต้องรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง แล้วก็การดูแลพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องหลัก ดังนั้น งานทางด้านการเมืองอาจจะเป็นเรื่องที่จะต้องใช้การพิจารณาอย่างรอบคอบว่า บรรยากาศอย่างนี้มันดีอยู่แล้ว คงไม่ต้องสร้างกระแสอะไรให้มันสับสนวุ่นวาย” พันเอกปิยพงศ์กล่าวเพิ่มเติม
เมื่อองค์กรสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอทช์ ออกแถลงการณ์ วันอังคารที่ 21 มิ.ย. เรียกร้องให้รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดโอกาสให้ประชาชนมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียง ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนที่จะถึงการลงประชามติจริงในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ที่จะถึงนี้
“รัฐบาลทหารใช้การคุกคาม และข่มขู่ประชาชน เพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญที่จะสืบทอดอำนาจกองทัพ นายทหารต้องการเพียงแค่ให้ประชาชนไทยเงียบ ว่านอนสอนง่าย และออกเสียงเห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญโดยไม่ต้องวิพากษ์หรือวิจารณ์อะไร” นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว
แถลงการณ์ฉบับดังกล่าว ยังชี้ว่า การที่ทหารและตำรวจนำกำลังเข้าปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ ของคนเสื้อแดง การจับกุมนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรี ฐานวิพากษ์-วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญผ่านเฟซบุค และการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งจะตั้งข้อหานักเคลื่อนไหวที่มีภาพปรากฎบน มิวสิค-วิดีโอคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ เป็นการกระทำที่ขัดต่อสิทธิมนุษยชน และกฎหมายสิทธิมนุษยชนสากล
ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารนำกำลังบุกเข้าควบคุมพื้นที่ ในห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว เพื่อขัดขวางการเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และได้ขัดขวางไม่ให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และแกนนำ นปช. อื่นๆ เข้าไปด้านในสถานีโทรทัศน์พีซทีวี โดยเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลการดำเนินการครั้งนี้ว่า จำเป็นต้องดำเนินการเนื่องจากการกระทำของ นปช. เป็นการขัดคำสั่ง คสช. เรื่องการห้ามชุมนุมเกิน 5 คน โดยระบุว่า หากมีการเปิดศูนย์ปราบโกงฯ จะทำการจับกุมดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทันที
ปัจจุบัน การดำเนินงานเตรียมพร้อมสำหรับวันออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 7 สิงหาคม 2559 กำลังอยู่ในช่วงที่กรรมการการเลือกตั้งเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน เพื่อขอออกเสียงประชามตินอกเขตพื้นที่ โดยสามารถลงทะเบียนได้ถึง วันที่ 30 มิถุนายน 2559 และเป็นช่วงที่สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ให้ผู้ใหญ่บ้านซึ่งได้รับการอบรมเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ ครู ค. ทำการลงพื้นที่ เพื่อประชาสัมพันธ์เนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญให้ประชาชนระดับหมู่บ้านฟัง โดยแผนต่อไปของการประชาสัมพันธ์การประชามติฯ คือ การเผยแพร่ความคิดเห็นเกี่ยวกับประชามติ และการจัดส่งร่างรัฐธรรมนูญให้ประชาชนในแต่ละครัวเรือนได้อ่าน
ระดมนักศึกษาวิชาทหารกระจายข่าวการออกเสียงประชามติ
ทางด้าน พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาว่า จะได้ระดมนักศึกษาวิชาทหาร (รด.) จิตอาสาลงพื้นที่ เพื่อให้ความรู้แก่บุคคลที่มีสิทธิ์ออกเสียงประชามติ ว่าจะสามารถวิจารณ์เรื่องการลงประชามติได้ถึงระดับใด และลงไปยังหน่วยลงประชามติ ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาน คนแก่ และผู้พิการ ในการลงประชามติที่หน่วย ทั้งนี้ ยังไม่ได้ระบุวันที่นักเรียนรด.จิตอาสาจะลงพื้นที่
"มันมี 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนการไปเผยแพร่ทำความเข้าใจ กับขั้นตอนไปให้ความสะดวกในการเลือกตั้ง ณ เวลานี้ เป็นการเตรียมการของน้องๆ รด. จิตอาสา คนที่เกี่ยวข้องต้องไปทำความเข้าใจน้องๆให้ชัดเจนว่าพูดอะไรได้ไม่ได้อย่างไร มันจะมีขั้นตอนที่น้องๆ ลงไปเผยแพร่ ไปพบปะอยู่ที่ขั้นตอนการพูดของเขา ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีปัญหา" พลเอกเฉลิมชัย กล่าว