ตำรวจออกหมายแดง ไล่จับแอดมินเพจ KonthaiUK

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช และนนทรัฐ ไผ่เจริญ
2018.06.13
กรุงเทพฯ
180613-TH-speech-800.jpg พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (คนซ้ายมือสุด) ร่วมกับตำรวจ บก.ปอท. แถลงข่าวการดำเนินคดีกับผู้ที่แชร์โพสต์ข้อความบิดเบือนโครงการดาวเทียมกลาโหม วันที่ 12 มิ.ย. 61
ภาพจากเฟสบุ๊ค พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล

ในวันพุธนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ตำรวจได้ออก “หมายแดง” เพื่อขอความร่วมมือจากตำรวจสากลตามจับกุมตัวนางวัฒนา เอ็บเบจ ผู้โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ค KonthaiUK บิดเบือนโครงการจัดหาดาวเทียมของกระทรวงกลาโหม

พลเอกประวิตร ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่กระทรวงกลาโหม หลังจาก พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เข้ารายงานความคืบหน้าการติดตามตัวบุคคลที่กระจายข่าวโจมตีรัฐบาลให้ทราบว่า ข้อความของนางวัฒนาเป็นเท็จ จึงได้ออกหมายแดง เพื่อประสานขอความร่วมมือไปยังตำรวจสากล เพื่อติดตามตัวและจับกุมผู้กระทำความผิดที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ

“ออกเป็นหมายแดง พวกที่บิดเบือนทั้งหลายที่ชอบออกข่าวนายกรัฐมนตรีผิดๆ รวมถึงข่าวที่ปล่อยออกมาว่ากระทรวงกลาโหม ไปเซ็นสัญญาซื้อดาวเทียม ไม่มี บิดเบือนทั้งหมด” พลเอกประวิตร กล่าวกับผู้สื่อข่าว

เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ที่ประชุมสภากลาโหมที่มีพลเอกประวิตรเป็นประธาน ได้มีแนวคิดในการพัฒนากิจการด้านอวกาศเพื่อการป้องกันประเทศ เพื่อทดแทนการใช้บริการดาวเทียมไทยคมที่จะหมดสัญญา ในปี 2564 ทั้งนี้ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ได้มีแนวคิดเรื่องการสร้างดาวเทียม THEIA ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูง แต่ในขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน

ต่อมา เฟสบุ๊ค KonthaiUK ที่ลงทะเบียนโดย Watana Ebbage หรือ นางวัฒนา เอ็บเบจ อายุ 56 ปี มีถิ่นพำนักอยู่ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้โพสต์ข้อความ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 61 และได้นำรูปพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ มาตัดต่อรวมกับรูปเรือเหาะ ดาวเทียม พร้อมข้อความภาษาไทยบนรูปดังกล่าวว่า “เรือเหาะ..ก็ซื้อมาซ่อม ยังจะซื้อดาวเทียม 91,200 ล้านมาแด-อีก.. จะยอมมันอีกมั๊ย!” โดยอ้างอิงการรายงานข่าวเรื่องแผนการจัดหาดาวเทียมจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ข่าวสด และมีผู้เข้ามากดไลค์มากกว่า 8,200 ครั้ง แชร์มากกว่า 10,000 ครั้ง และมีผู้แสดงความเห็นกว่า 1,600 คน

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุ ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด ซึ่งศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับนางวัฒนา เมื่อวานนี้ ในความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ประสานเชิญตัวนางวัฒนา เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

แอดมินเฟสบุ๊ค KonthaiUK ได้โพสต์ข้อความตอบโต้อย่างดุเดือด ระบุว่าไม่ได้เป็นการใส่ร้าย แต่เป็นแจ้งข้อมูลจากข่าวที่ปรากฏตามสื่อมวลชนแขนงต่างๆ

โดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ยังได้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่มีการกดไลค์และแชร์ข้อความดังกล่าว จำนวน 29 คน ในความผิดฐานเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และได้รายงานความคืบหน้ากับพลเอกประวิตร เรียบร้อยแล้ว

“เราจับคนไทยที่เข้ามาไลค์และแชร์ไปทั้งหมด 29 คน ซึ่งพบว่า เป็นประชาชนปกติ ทำไปเพราะความไม่รู้ ไม่มีเจตนา ที่แชร์ต่อไปเพราะเข้าใจผิดคิดว่ามันกระทบต่อชีวิตประจำวัน แต่คนทำเวบไซต์นี้อยู่ต่างประเทศ มีเจตนาไม่ถูกต้อง ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง... ได้ออกหมายจับนางวัฒนา ไปแล้วตาม พรบ.คอมพิวเตอร์” พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ กล่าวกับสื่อมวลชน

ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ มีแผนในการเยือนสหราชอาณาจักร และประเทศฝรั่งเศส ในช่วงวันที่ 20 ถึง 25 มิถุนายนนี้ ซึ่งเฟสบุ๊ค KonthaiUK ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพต่อต้าน โดยเขียนข้อความว่า “คนไทยที่อยู่ในอังกฤษ ไม่ต้อนรับเผด็จการเยือนอังกฤษ”

เมื่อตอนต้นเดือนนี้ เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ตั้งข้อหากับนายรัตนะ เฮง (Mr. Ratanak Heng) สัญชาติกัมพูชา ฐานละเมิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ด้วยการดัดแปลงคำพูดนายกรัฐมนตรีไทยว่า ให้ประชาชนเติมน้ำแทนน้ำมันหลังจากมีการขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านั้ แล้วได้ขอความร่วมมือจากฝ่ายกัมพูชานำตัวนายรัตนะมาดำเนินคดีในไทย ซึ่งรัฐบาลไทยได้แสดงความต้องการที่จะดำเนินคดีกับการบิดเบือนข้อความเพื่อใส่ร้ายรัฐบาลให้หมดไป

หลังการรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นักสิทธิมนุษยชนและสื่อมวลชน กล่าวรัฐบาลพลเอกประยุทธ์จำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของสื่อมวลชนและประชาชนอย่างรุนแรง

ในการสัมมนาเรื่อง เสรีภาพในการพูดในอาเซียนอยู่ในสภาวะถดถอย ที่จัดขึ้นที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย หรือ เอฟซีซีที ในค่ำนี้ นายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสเว็บไซต์ข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ กล่าวว่า สถานการณ์เสรีภาพของประชาชน และสื่อมวลชนในประเทศไทย

“สถานการณ์เสรีภาพ ไม่ได้กระทบแค่เฉพาะผู้สื่อข่าว แต่รวมถึงประชาชนด้วย หลังจากการรัฐประหารในปี 2557 คนไทยถูกควบคุมอย่างเข้มงวด จาก คสช. ในช่วงที่ผ่านมา ก็มีประชาชนจำนวนหนึ่งถูกควบคุมตัวและดำเนินคดีจากการชุมนุมประท้วงรัฐบาล เพราะรัฐบาลทหารไม่ต้องการให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง มีการลงทุนไปถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะเฟสบุ๊คด้วย” นายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสเว็บไซต์ข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ กล่าวในการพูดคุยเรื่องเสรีภาพในการแสดงออกในอาเซียน ที่จัดขึ้นที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ในค่ำนี้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง