สตม.เลี้ยงผู้ต้องกักกว่า 600 ราย ที่รอปล่อยตัว ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ ร.9
2017.10.19
กรุงเทพฯ

ในวันพฤหัสบดี (19 ตุลาคม 2560) นี้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รักษาการผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบ.สตม.) เป็นประธานในการเลี้ยงอาหารกลางวันผู้ต้องกัก 619 ราย ที่ถูกควบคุมตัวในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรุงเทพฯ ก่อนการส่งตัวกลับประเทศ หรือส่งตัวไปประเทศที่สาม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยมีตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตหลายประเทศเข้าร่วม ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู กรุงเทพฯ
โดยผู้ต้องกักเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นชาวลาว กัมพูชา และเมียนมา ที่เดินทางเข้าเมืองผิดกฎหมาย หรืออยู่ในประเทศไทยเกินอายุของวีซ่า
“ถูกกักอยู่ประมาณหกร้อยคน รอการส่งตัวกลับ เป็นความผิดเข้าเมืองผิดกฎหมาย และอยู่เกินก็รอส่งตัวกลับ ส่วนใหญ่เป็นการส่งกลับประเทศต้นทาง ส่วนมากเป็นกลุ่ม 3 ประเทศ ที่มาทำงานในบ้านเรา” พล.ต.ท.สุทธิพงษ์เปิดเผยต่อสื่อมวลชน
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ เพิ่มเติมว่า ในจำนวนผู้ต้องกักที่จะถูกส่งตัวกลับ เป็นเด็กอายุ 3-12 ปี อยู่ 20 ราย มีบางส่วนที่ได้รับสถานะผู้ลี้ภัย และเตรียมที่จะถูกส่งตัวไปยังประเทศที่สามในอนาคต ขณะเดียวกันก็มีบางรายที่เป็นผู้ต้องหาหลบหนีจากต่างประเทศ ซึ่งจะได้ประสานประเทศต้นทาง เพื่อส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเช่นกัน
“มีรอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนบางส่วน มีระหว่างการติดต่อประสานงานอยู่ ของประเทศอื่นก็มีอยู่บ้าง เป็นประเภทคดีฉ้อโกง ปล้น มีการร้องขอจากกลุ่มประเทศที่มีความสัมพันธ์กับเรา ที่มีการร้องขอมามีอยู่บ้าง” พล.ต.ท.สุทธิพงษ์กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับในกรณีผู้ขอลี้ภัยนั้น สตม. จะได้ดำเนินการประสานงานกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เพื่อดำเนินการนำผู้ลี้ภัยเหล่านั้น ไปยังประเทศที่พร้อมจะรับผู้ลี้ภัยในอนาคต
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ ไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดโดยตรงของผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ ที่ยังคงตกค้างอยู่ในประเทศไทยประมาณ 60 คน หลังจากที่เดินทางเข้าเมืองผิดกฎหมายในปี 2557 โดยเมื่อ ปี 2558 ประเทศไทยได้ส่งตัวชาวอุยกูร์ 172 คน ให้ทางการตุรกี และอีก 109 คน ให้ทางการจีน
ชาวอุยกูร์ซึ่งเป็นกลุ่มชนเผ่าในแคว้นซินเจียงของจีน นับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ ได้เดินทางผ่านประเทศไทย เพื่อไปยังมาเลเซีย โดยมีจุดประสงค์ในการเดินทางไปรวมกับญาติที่ตุรกีที่มีชายอุยกูร์ไปตั้งรกรากอยู่จำนวนมาก
กิจกรรมวันนี้ ซึ่งนอกจากการเลี้ยงอาหารกลางวันแล้ว ยังมีการมอบสิ่งของเครื่องใช้ และเยี่ยมศูนย์ดูแลเด็กภายใน สตม. ด้วย โดยเจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดเผยจำนวนผู้ต้องกักใน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรุงเทพฯ และทั่วประเทศ