ประยุทธ์ยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดได้เป็นนายกฯ อีกสมัย

ในวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอบคุณสมาชิกรัฐสภาที่ให้การสนับสนุน และขอบคุณประชาชนที่ทำให้การเลือกตั้งสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี พร้อมสัญญาว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการนำประเทศไทยเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

พลโทวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับทราบผลการเลือกนายกรัฐมนตรีของสมาชิกรัฐสภาแล้ว และกล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภาและประชาชนที่ให้การสนับสนุน รวมถึงได้กล่าวขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่แม้ไม่ได้สนับสนุนตน แต่ก็ได้ทำหน้าที่ของผู้แทนของประชาชนอย่างเต็มที่ โดยต่อจากนี้ ขอให้ทุกคนทำงานด้วยกันในการนำพาประเทศชาติไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนอย่างแท้จริง

“นายกฯ ย้ำว่า คะแนนเสียงที่มากกว่านั้น ได้มาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก่อน แล้วค่อยรวมกับเสียงของสมาชิกวุฒิสภา เป็น 500 คะแนน ซึ่งก็เป็นไปตามกติกาเดิม พร้อมทั้งยืนยันจะปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน” พล.ท.วีรชน ระบุ

ในวันนี้ พลเอกประยุทธ์ ได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีตามปกติ โดยได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลเพียงสั้นๆ ว่า “ขอบคุณนะครับ ทุกอย่างเหมือนเดิม”

ในการโหวตนายกฯ เมื่อวานนี้ สมาชิกรัฐสภาลงคะแนนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 500 คะแนน ลงคะแนนให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 244 คะแนน และมีผู้งดออกเสียงจำนวน 3 คน โดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แถลงภายหลังการลงคะแนนว่า ฝ่ายประชาธิปไตยไม่ได้พ่ายแพ้ แต่ชัยชนะโดนปล้นไปจากกติกา ระเบียบ กรอบการเลือกตั้งที่ถูกร่างจากคณะรัฐประหาร

“ปล้นบ้าอะไร” พล.อ.ประวิตร โต้ตอบผ่านสื่อมวลชน ในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีนี้

ทั้งนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาลถึงขั้นตอนต่อจากนี้ว่า ประธานรัฐสภาจะได้นำชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งคาดว่าจะภายในวันนี้ เพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

ไม่ยืนยัน พปชร. ปรับโควต้าพรรคร่วมรัฐบาล

นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวกับสื่อมวลชนถึงรายงานข่าวที่ว่า พรรคพลังประชารัฐ ล้มข้อตกลงในการจัดทัพร่วมรัฐบาลก่อนหน้าการลงคะแนนนั้น นายอนุทินว่า ไม่น่ามีปัญหา และกล่าวติดตลกว่า ถ้ามีจะได้ขอโควต้าเพิ่ม

“ตอนนี้ ยังไม่มีใครบอกว่าจะมีอะไรเป็นอย่างอื่น แต่เราต้องการเข้ามาทำงาน ไม่ได้ต้องการมาต่อรองอะไร เราอยากเข้าไปทำงานในกระทรวงฯ ที่เรามีนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชนตอนหาเสียงเลือกตั้ง และเราคิดว่าเราจะทำได้ในสิ่งที่เรามีฝีมือตรงนั้นให้ดีที่สุด” นายอนุทิน กล่าวกับผู้สื่อข่าว

ในวันนี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ได้กล่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ลงคะแนนให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องการแบ่งตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งมีพรรคร่วมรัฐบาลมากถึง 19 พรรคตามที่มีรายงานในสื่อมวลชน

“เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี จะนำนโยบายต่างๆ มาปฏิบัติทันทีเพื่อสร้างความอยู่ดีกินดีให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ เราจะทำพรรคให้เป็นพรรคการเมืองที่ยั่งยืน ดังนั้น ทุกนโยบายที่เราประกาศไว้กับประชาชนพรรคจะทำทันทีที่เป็นรัฐบาล” นายธรกร ระบุ

เอเชียไทมส์ ออนไลน์ รายงานว่า พรรคภูมิใจไทยแถลงจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ หลังจากได้รับคำมั่นว่า จะมีบทบาทนำด้านสาธารณสุข เพื่อผลักดันกฎหมายใช้กัญชาทางการแพทย์

นักวิเคราะห์กังวลว่า พรรคการเมืองต่าง ๆ ที่ผลักดันนโยบายของพรรคตนเอง อาจนำพรรคร่วมไปสู่การแข่งขันกันทางนโยบาย ซึ่งอาจลดเสถียรภาพการทำงานของรัฐบาล เอเชียไทมส์ รายงาน

ประชาชนยังแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

ประชาชนยังมีความเห็นแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ภายหลังจากที่รัฐสภาลงคะแนนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่  24 มีนาคม ที่ผ่านมา

“ดีใจ ได้ลุงตู่กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง เพราะในสภาวะปัจจุบันไม่มีใครดีและพร้อมเท่านายกฯ ลุงตู่อีกแล้ว เชื่อมั่นในการทำงาน ความตั้งใจ ความดี และความซื่อสัตย์สุจริต” นางอัมพร (สงวนนามสกุล) กล่าวกับเบนาร์นิวส์

ด้านนายจันทร จันคุณ ชาวอุบลราชธานี อาชีพขับแท็กซี่ในกรุงเทพฯ กล่าวว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จะพบปัญหาในการตอบคำถามของสาธารณชน

“เรื่องไม่เคลียร์เยอะมาก ยังมีอีกเยอะ ผมอยากให้เขาลองนั่งดู ทีนี้ ไม่มี ม.44 แล้ว ก็อยากดูว่าเขาจะขุดคุ้ยยังไง ตอบยังไง ผมคิดว่าเขาอยู่ไม่นานหรอก เปิดสภาเมื่อไหร่ ประยุทธ์ จะเต้นกลางสภา จะปรี๊ดแตก” นายจันทรกล่าว

ชาวจังหวัดชายแดนใต้ ขอให้นายกลงพื้นที่มากขึ้น

นายนิมุ มะกาเจ ราษฎรอาวุโส จังหวัดยะลา เรียกร้องนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ลงพื้นที่ให้มากขึ้น ในขณะที่ชาวบ้านขอนายกฯ คนใหม่เปิดใจรับฟังชาวบ้าน

"ในมุมมองของคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มองว่านายกฯ มีแขนขาหูตากว้างไกลที่จะต้องใช้ข้อมูลแท้จริงไปแก้ไขปัญหาใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เข้มขึ้นกว่าเดิมทุกๆ ด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การมีอาชีพการมีงานทำในพื้นที่ ด้านการจัดการศึกษาให้มีสัมพันธภาพระหว่างสถานศึกษาของเอกชนทั่วไป เอกชนสอนศาสนากับของรัฐทุกระดับ ตั้งแต่อนุบาลถึงอุดมศึกษา ที่ต้องมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน ชุมชน เอกชนมากขึ้น ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินรวมทั้งทรัพยากรในพื้นที่" นายนิมุ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

ส่วนนางนภา แจ่มใจ ชาวบ้านในจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า เราอยากได้นายกที่เป็นประชาธิปไตย แต่เราได้นายเผด็จการมา ก็ต้องยอมรับ

“แต่เมื่อการเมืองมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ต้องเดินไปข้างหน้า ขอให้มีการแก้ปัญหาภาคใต้ให้ดี ชาวบ้านก็จะอยู่อย่างสงบสุข” นางนภา กล่าว

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก่อนการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี องค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ ได้ออกแถลงการณ์ ร้องรัฐบาลให้สอบสวนการลอบทำร้าย กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลสามคน ในเดือนพฤษภาคม

“เพื่อนๆ ของประเทศไทยไม่ควรปล่อยให้การเลือกตั้งที่เพิ่งมีขึ้น เป็นข้ออ้างในการเมินเฉยต่อสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศ” แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชีย กล่าว “ประเทศไทยต้องการชุมชนสิทธิมนุษยชนที่มีความกระตือรือร้นอย่างแรงกล้ามากขึ้นกว่าเดิม และรัฐบาลที่เกี่ยวข้องนี้ ก็ควรมีความชัดเจนต่อผู้นำไทยที่จะนำไปสู่การดำเนินการที่แท้จริง เพื่อยุติการบุกทำร้ายกลุ่มนักกิจกรรมการเมือง”

มารียัม อัฮหมัด จากปัตตานี และ นนทรัฐ ไผ่เจริญ ในกรุงเทพฯ ร่วมรายงานข่าวนี้