ในการประชุมสุดยอด จีนใช้การค้าและความช่วยเหลือล่อใจเอเชียอาคเนย์

เตรีย ดิอานติ
2021.11.23
จาการ์ตา
ในการประชุมสุดยอด จีนใช้การค้าและความช่วยเหลือล่อใจเอเชียอาคเนย์ ผู้นำของ 9 ประเทศในเอเชียภูมิภาค และจีน ยกมือขานเพื่อแสดงตนในการประชุมพิเศษอาเซียน-จีน โดยผ่านระบบทางไกล ซึ่งพม่าไม่ได้มาร่วม วันที่ 22 พ.ย. 2564
สำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย/เอพี

ประธานาธิบดีจีนบอกผู้นำประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อวันจันทร์ว่า ในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้ จีนจะซื้อสินค้าเกษตรมูลค่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากประเทศสมาชิกอาเซียน ขณะเดียวกันก็ให้ความมั่นใจว่า จีนจะไม่กลั่นแกล้งหรือข่มขู่ประเทศเพื่อนบ้าน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 30 ปีของความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมียนมา สมาชิกอาเซียนอีกประเทศ ไม่เข้าร่วมการประชุมอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่อาเซียนกล่าวว่าไม่ต้องการเชิญผู้นำรัฐบาลทหารพม่าและผู้นำรัฐประหารเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน

“จีนพร้อมที่จะนำเข้าสินค้าคุณภาพปริมาณมากขึ้นจากประเทศในอาเซียน รวมถึงการซื้อสินค้าเกษตรมูลค่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์จากอาเซียนในห้าปีข้างหน้านี้” นายสี จิ้นผิง กล่าว

ปีที่แล้วอาเซียนได้กลายมาเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน แทนที่สหภาพยุโรป โดยมูลค่าการค้าระหว่างอาเซียนและจีนอยู่ที่ 7.32 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่อาเซียนอีก 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงสามปีข้างหน้านี้ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกอาเซียนหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19

ท่ามกลางความตึงเครียดเกี่ยวกับข้อพิพาททะเลจีนใต้ และการกระทำของจีนที่รุกรานเรือของฟิลิปปินส์ในน่านน้ำทะเลจีนใต้เมื่อเร็ว ๆ นี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังพูดถึงเรื่องความมั่นคงในภูมิภาคด้วย

“[ค]วามพยายามร่วมกันเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อปกป้องเสถียรภาพในทะเลจีนใต้ และทำให้ทะเลแห่งนี้เป็นสายน้ำแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือกัน” เขากล่าว

“จีนต่อต้านลัทธิเจ้าโลกและการกระทำทางการเมืองเพื่อแสวงอำนาจอย่างแน่นอน… จีนจะไม่มีวันต้องการเป็นเจ้าโลกอย่างแน่นอน อย่าว่าแต่การรังแกประเทศเล็ก ๆ เลย” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าว  

เขากล่าวเช่นนั้น หลังจากที่ฟิลิปปินส์ออกคำประท้วงอย่างแข็งกร้าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกี่ยวกับเหตุที่เรือยามฝั่งของจีนฉีดน้ำแรงดันสูงใส่เรือของฟิลิปปินส์ เพื่อสกัดกั้นภารกิจการส่งกำลังเพิ่มเติมของฟิลิปปินส์ไปยังกองรักษาด่านของฟิลิปปินส์ที่อยู่บนแนวปะการังในทะเลจีนใต้

แต่ทั้งประธานาธิบดีของจีน และแถลงการณ์ร่วมที่ออกโดยทั้งสองฝ่าย หลังจากการประชุมระยะเวลาหนึ่งวันผ่านระบบการประชุมทางไกล ก็ไม่ได้ระบุกำหนดเวลาในการเจรจาตกลงกันเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้

ประธานาธิบดีจีนไม่ได้พูดถึงข้อพิพาททะเลจีนใต้ระหว่างจีนและสี่ประเทศสมาชิกอาเซียน หรือข้อกล่าวหาที่ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เรือและเครื่องบินของจีนรุกล้ำเข้าไปในน่านน้ำหรือน่านฟ้าของประเทศเหล่านี้ เขาเพียงแต่เอ่ยถึงความตึงเครียดเหล่านี้อย่างอ้อม ๆ เท่านั้น

ในการประชุมสุดยอดเมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต พูดแสดงความคิดเห็นออกมาอย่างร้อนแรงต่อการกระทำของจีนเมื่อวันที่ 16 พ.ย. โดยเตือนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

ก่อนหน้านี้ จีนกล่าวว่า เรือของฟิลิปปินส์ได้ “บุกรุก” เข้าไปในน่านน้ำของจีนโดยไม่ได้รับอนุญาต

น่านน้ำที่เป็นข้อพิพาทกัน

จีนอ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด รวมทั้งน่านน้ำภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของสี่ประเทศสมาชิกอาเซียน คือ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน และเวียดนาม

การอ้างสิทธิ์ของจีนเหนือพื้นที่จำนวนมากในทะเลจีนใต้ได้ถูกศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในกรุงเฮก ตัดสินว่าไม่ถูกต้องเมื่อปี 2559 โดยกล่าวว่าการอ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ของจีนขัดต่ออนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (United Nations Convention on the Law of the Sea หรือ UNCLOS) ในคำตัดสิน ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศยืนยันสิทธิอธิปไตยของฟิลิปปินส์ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเลในทะเลจีนใต้

จีนปฏิเสธคำตัดสินที่อ้างอนุสัญญา UNCLOS นั้น

กระนั้นก็ตาม แถลงการณ์ร่วมที่ออกโดยอาเซียนและจีนหลังการประชุมสุดยอดเมื่อวันจันทร์ กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยืนยันอีกครั้งถึง “ความสำคัญในการรักษากฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982… UNCLOS”

ได้มีการนำเสนอแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ฉบับร่างครั้งที่หนึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2560 แต่กระบวนการนี้ได้ยืดเยื้อออกไป เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2563 สมาชิกอาเซียนกล่าวว่า ต้องการจัดทำแนวปฏิบัติดังกล่าวให้เสร็จในปีนั้น แต่การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่รุนแรงทำให้การเจรจาล่าช้าลง

ประเด็นเร่งด่วนที่สุดที่อาเซียนควรหาข้อยุติกับจีนคือ แนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ ตามคำกล่าวของ นายเรนเน พัตติราจาเวน ประธานมูลนิธิศูนย์จีนศึกษาในกรุงจาการ์ตา

“มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง มีการพูดถึงกันหรือเปล่า เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมากและต้องมีการเจรจากันทันที จำเป็นต้องได้รับคำมั่นสัญญาที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นจากจีน” เขาบอกแก่เบนาร์นิวส์

รายงานกล่าวว่า จีนหวังที่จะเห็นความคืบหน้าอย่างสำคัญเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ในการประชุมสุดยอดเมื่อวันจันทร์ เพื่อให้ตรงกับวาระครบรอบ 30 ปี ของความสัมพันธ์อาเซียน-จีน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นไปตามที่หวัง

เมียนมาไม่เข้าร่วมประชุม

ขณะเดียวกัน เมียนมา ประเทศสมาชิกอาเซียน ไม่ได้เข้าร่วมประชุมเมื่อวันจันทร์ นายไซฟุดดิน อับดุลละฮ์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซีย บอกแก่ผู้สื่อข่าว

ประเทศสมาชิกอาเซียนได้ตัดสินใจไม่เชิญพล.อ.อาวุโส มิน ออง ลาย ผู้นำรัฐบาลทหารพม่า เข้าร่วมการประชุม เนื่องจากรัฐบาลทหารไม่ยอมดำเนินการฟื้นฟูประชาธิปไตยในเมียนมา หลังเกิดรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. นายไซฟุดดินกล่าว

สมาชิกอาเซียน 9 ประเทศจากทั้งหมด 10 ประเทศ เห็นด้วยกับข้อเสนอของจีนที่จะให้เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นผู้แทนเข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของมาเลเซียกล่าว

“อย่างไรก็ตาม เมื่อเช้านี้เราไม่ได้ข้อสรุปขั้นสุดท้าย และการประชุมดำเนินต่อไปโดยไม่มีผู้แทนจากเมียนมา” เขากล่าว

ในการตัดสินใจที่ไม่เคยทำมาก่อน เมื่อเดือนที่แล้ว อาเซียนไม่เชิญ พล.อ.อาวุโส มิน ออง ลาย เข้าร่วมในการประชุมสุดยอดประจำปีของอาเซียน โดยอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ เป็นหัวหอกในความพยายามไม่เชิญผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา

“จีนได้เชิญให้เราเข้าร่วมการประชุม เรารู้สึกขอบคุณจีนที่ประสานงานกับประเทศสมาชิกอาเซียน (เพื่อให้เรา) เข้าร่วมการประชุมนั้น” ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา บอกแก่สำนักข่าวต่าง ๆ รวมทั้งเรดิโอฟรีเอเชีย (RFA) หน่วยงานต้นสังกัดของเบนาร์นิวส์

เขากล่าวเสริมว่า สมาชิกอาเซียนบางประเทศยืนกรานว่าจะอนุญาตให้เฉพาะบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองเท่านั้นเข้าร่วมในการประชุมสุดยอดจีน-อาเซียนได้

RFA ได้พยายามติดต่อโฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับในทันที

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้แทนการทูตของจีนพยายามวิ่งเต้นให้ประเทศสมาชิกอาเซียนยอมให้พล.อ.อาวุโส มิน ออง ลาย เข้าร่วมการประชุม วันต่อมา นายติวกู ไฟซัสยาฮ์ บอกแก่เบนาร์นิวส์ว่า อินโดนีเซียสนับสนุนการไม่เชิญพล.อ.อาวุโส มิน ออง ลาย ให้เข้าร่วมการประชุม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายจ่าว ลีเจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ว่าเพราะเหตุใดจึงไม่มีผู้แทนจากเมียนมาเข้าร่วมการประชุม เขาพูดหลายอย่างแต่ไม่ได้ตอบคำถามนั้น

เมียนมาเป็น “สมาชิกสำคัญของครอบครัวอาเซียน” เขากล่าว

“จีนสนับสนุนความเป็นปึกแผ่นของอาเซียนเสมอ และสนับสนุนอาเซียนในการดำเนินการตามฉันทามติห้าข้อต่อเมียนมา” โฆษกฯ กล่าว โดยหมายถึงข้อเรียกร้องของผู้นำอาเซียนให้รัฐบาลทหารเมียนมายุติความรุนแรง และจัดการเจรจากับสมาชิกของรัฐบาลพลเรือนที่ถูกโค่น นอกเหนือจากการดำเนินการอื่น ๆ

หล่า จอ ซอ นักวิเคราะห์การเมืองที่อาศัยในจีน ตั้งข้อสังเกตว่า จีนต้องการเชิญให้ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ แต่ไม่สามารถเอาชนะการต่อต้านจากสมาชิกอาเซียนได้ เธอกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในเดือนนี้ นายซุน กั๋วเซียน ผู้แทนพิเศษประจำเอเชียของกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้ไปเยือนสิงคโปร์และบรูไน เพื่อพยายามโน้มน้าวอาเซียน หลังจากนั้นเขาได้เดินทางไปเมียนมา

“ดูเหมือนว่าจีนต้องการรักษาความสัมพันธ์กับรัฐบาลทหารเมียนมาเอาไว้ ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการให้เมียนมาเสียหน้า ดังนั้น ดิฉันคิดว่าเขา [ซุน กั๋วเซียน] ไปเยือนเมียนมาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมดนี้”

การที่จีนยอมรับคำตัดสินใจของอาเซียนแสดงให้เห็นว่า จีนไม่ทำสิ่งที่เคยทำในอดีตเพื่อปกป้องเผด็จการทหารเมียนมาเรื่อย ๆ อีกต่อไปแล้ว” หล่า จอ ซอ กล่าว

ธัน โซ เนง นักวิเคราะห์อีกคนหนึ่งกล่าวว่า ขณะนี้ พล.อ.อาวุโส มิน ออง ลาย กำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะจีนไม่สนับสนุนรัฐบาลทหารอย่างเต็มที่อีกต่อไปแล้ว

“มิน ออง ลาย กำลังต่อสู้กับคนทั้งประเทศ ดังนั้น ดูเหมือนจีนจะไม่เต็มใจที่จะให้การสนับสนุน [เขา] ต่อไป และเพื่อให้มิน ออง ลาย มีทางออกที่ดี...” ธัน โซ เนง บอกแก่เรดิโอฟรีเอเชีย

“เราจึงพูดได้ว่า ตอนนี้ มิน ออง ลาย ติดกับดักทางการทูต และถ้าเขาไม่สามารถเข้ากับจีนได้ เขาจะอยู่ในสถานการณ์ลำบาก"

ฮาดี อัซมี และมุซลิซา มุสตาฟา ในกัวลาลัมเปอร์, เจสัน กูเตเรซ ในมะนิลา และ เรดิโอเอเชีย ภาคภาษาเมียนมา ร่วมรายงาน 

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง