สธ. เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 คนจีนกว่า 1 แสนคน ในประเทศไทย
2021.05.20
กรุงเทพฯ

ในวันพฤหัสบดีนี้ กระทรวงสาธารณสุข เปิดศูนย์ฉีดวัคซีน สถาบันการแพทย์บางรัก โดยเตรียมฉีดให้กับคนที่ถือหนังสือเดินทางจีนกว่า 1 แสนคน ที่พำนักในประเทศไทย ขณะที่ ศบค. เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 2,636 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 25 ราย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ นายหยาง ซิง (Yang Xin) อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขร่วมกัน เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนและสุขภาพบางรัก ณ สถาบันการแพทย์บางรัก
“ประเทศไทยเรามีนโยบายที่จะฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ตลอดจน พี่น้องประชาชนชาวจีนและชาวต่างชาติทั่วโลก ที่อาศัยอยู่ในประเทศ เพื่อให้ทุกคนได้รับวัคซีน และก็อาศัยอยู่ในประเทศเราให้เกิดความปลอดภัย ช่วยให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศไทยเร็วขึ้นด้วย… ก็มีความมุ่งหวังว่า อนาคตอันใกล้ไม่นานจากนี้ เราจะได้ต้อนรับพี่น้องของเรา จากประเทศจีน ให้มาเยี่ยมเยือน มาเที่ยว มาลงทุนในประเทศไทยเหมือนในอดีตที่ผ่านมา” นายอนุทิน เปิดเผยแก่สื่อมวลชน
ด้าน นายหยาง ระบุว่า “วันนี้ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสร่วมพิธีเปิดของศูนย์การให้บริการฉีดวัคซีนบางรัก ในนามของสถานทูตจีนประจำประเทศไทย ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเช้านี้ วัคซีน (ซิโนแวค) ล็อตที่ 8 จำนวน 1.5 ล้านโดส ได้ส่งถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว”
กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนและสุขภาพบางรัก (Bangrak Vaccination and Health Center) ใช้พื้นที่ชั้น 11 ของสถาบันการแพทย์บางรัก ซึ่งเป็นอาคารใหม่ของกรมควบคุมโรค มีตู้เย็นสำหรับการจัดเก็บวัคซีน เครื่องสำรองไฟ ครุภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ในการดูแลผู้ที่มารับการฉีดวัคซีน และจัดระบบบริการ 8 ขั้นตอนตามมาตรฐานกรมควบคุมโรค จะสามารถให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้อย่างน้อยวันละ 180 คน
“รัฐบาลจีนได้บริจาควัคซีนให้อีกจำนวน 1 ล้านโดส ได้รับแล้ว 5 แสนโดส เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ซึ่งวัคซีนที่ได้รับบริจาคล็อตนี้ จะฉีดให้กับคนจีนที่ถือพาสปอร์ตจีนที่สถานทูตส่งมาจำนวนกว่า 100,000 คน และจะใช้ฉีดให้กับคนไทย เช่น นักเรียนไทย และบุคลากรของหน่วยงานที่ไปศึกษาหรืออบรมที่ต่างประเทศ รวมทั้งชาวต่างชาติในระยะต่อไป” นายอนุทิน ระบุ
ปัจจุบัน แผนนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย คือ 1. บริษัท ซิโนแวค ไบออนเทค ประเทศจีน 6.5 ล้านโดส แบ่งเป็นนำเข้ารอบแรก 2 ล้านโดส มูลค่า 1,228 ล้านบาท สั่งซื้อเพิ่มเติมอีก 3.5 ล้านโดส และประเทศจีนบริจาคให้ 1 ล้านโดส ทยอยนำเข้ามาในประเทศไทย ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 2564
บริษัท แอสตราเซเนกา ประเทศสวีเดน-อังกฤษ 61 ล้านโดส โดยจะทยอยจัดส่งในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม - ธันวาคม 2564 การสั่งซื้อแบ่งเป็น 26 ล้านโดส มูลค่า 6,049 ล้านบาท และ 35 ล้านโดส มูลค่า 6,387 พันล้านบาท วัคซีนของแอสตราเซเนกาบางส่วน จะผลิตในประเทศไทย โดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ขณะเดียวกันมีการเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยกำลังเจรจาเพื่อนำเข้าวัคซีนจากบริษัท ไฟเซอร์ และโมเดิร์นนา และสปุตนิก วี ประเทศรัสเซียด้วย
ปัจจุบัน ประเทศไทยฉีดวัคซีนให้กับประชาชนแล้ว 2,540,116 โดส เป็นเข็มแรก 1,647,871 ราย และเข็มที่สอง 892,245 ราย ขณะที่ มีประชาชนจองคิวฉีดวัคซีนโควิด-19 ผ่านแอปพลิเคชั่นหมอพร้อมแล้ว 7,509,723 ราย
ไทยติดโควิด-19 เพิ่ม 2,636 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 25 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ไทยยังคงมีตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“วันนี้ พบใหม่ 2,636 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,907 ราย มาจากต่างประเทศ 58 แล้วก็พบในเรือนจำ 671 ราย ทำให้ยอดสะสมจากปีที่แล้วถึงปัจจุบัน 119,585 ราย เสียชีวิตวันนี้เพิ่มขึ้น 25 ราย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า ไทยมีผู้ป่วยโควิด-19 หายแล้วสะสม 76,636 ราย เสียชีวิตสะสม 703 ราย คิดเป็น 0.59 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ป่วย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 42,246 ราย ในนั้นอาการหนัก 1,213 ราย ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 405 ราย
ในวันเดียวกัน นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวในการแถลงข่าวศูนย์บัญชาการการระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า จังหวัดเชียงใหม่จะพยายามกระตุ้นให้มีการฉีดวัคซีนมากที่สุด
“อำเภอแม่แจ่มมีการสร้างแรงจูงใจให้กับพี่น้อง ในอำเภอแม่แจ่ม โดยท่านนายอำเภอจะแจกวัวให้สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีน สัปดาห์ละ 1 ตัว แจกไปเรื่อย ๆ เดือนละ 4 ครั้ง จนกว่าจะมีการฉีดวัคซีนให้อำเภอแม่แจ่ม จนครบ 100 เปอร์เซ็นต์” นายกนก กล่าว
โดย นายกนก กล่าวว่าจังหวัดเชียงใหม่ มีประชากรตามทะเบียนราษฎร์และประชากรแฝง 1,729,353 คน มีเป้าหมายฉีดวัคซีน 70 เปอร์เซ็นต์ให้กับประชากร คือ 1,132,878 คน โดยจะเริ่มมีการจัดสรรวัคซีนให้กับประชาชนมิถุนายน - กันยายน 2564 ขณะที่ อำเภอแม่แจ่มมีประชากร 63,934 คน ในนั้นเป็นผู้สูงอายุ 7,052 คน